คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3389/2541

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองเคยร้องขอเลื่อนการไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างเหตุจำเลยที่ 1 ซึ่งประสงค์ จะสืบเป็นพยานเพียงปากเดียว ติดภาระหน้าที่ราชการถึงสองนัดศาลชั้นต้นก็ได้เห็นความสำคัญของภาระหน้าที่ที่จำเลยที่ 1ต้องปฏิบัติด้วยการอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวนมาแล้วทั้งสองนัดการที่จำเลยที่ 1 ไม่มาศาลในนัดที่สามโดยการโทรศัพท์แจ้งให้ทนายความจำเลยทั้งสองแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าจำเลยที่ 1ติดประชุมโดยจำเลยที่ 1 ไม่มีหลักฐานที่ควรแก่การเชื่อถือมาแสดงว่ามีการประชุมเรื่องดังกล่าวกันจริงและจำเลยที่ 1จำเป็นจะต้องไปร่วมประชุมด้วยตนเอง ถือว่าจำเลยที่ 1ไม่ให้ความสำคัญแก่คำกำชับและวันเวลานัดของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นเวลานัดของหน่วยงานราชการที่สำคัญหน่วยงานหนึ่งเช่นกัน ข้ออ้างของจำเลยที่ 1 จึงมิใช่เหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์และจำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 27,240,356 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ที่จำนองออกขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนครบ
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องของจำเลยทั้งสองเมื่อถึงวันนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสองนัดแรกทนายความจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 1 เดินทางไปราชการที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายไม่สามารถมาศาลได้ ขอเลื่อนคดีศาลชั้นต้นอนุญาตนัดที่สองทนายความจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 1ซึ่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทางไปตรวจงานประมงที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรีไม่สามารถกลับมาศาลได้ทัน ขอเลื่อนคดี และทนายความจำเลยทั้งสองแถลงว่าคงติดใจสืบจำเลยที่ 1 เพียงปากเดียว ไม่ติดใจสืบจำเลยที่ 2 ทนายความโจทก์แถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีโดยมีคำสั่งกำชับให้โอกาสจำเลยทั้งสองเป็นครั้งสุดท้ายครั้นถึงวันนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสองที่เลื่อนมาเป็นนัดที่สามทนายความจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า ได้รับแจ้งจากจำเลยที่ 1ทางโทรศัพท์ว่า จำเลยที่ 1 ติดประชุมปัญหาเรื่องราคากระเทียมของจังหวัดเชียงใหม่ไม่อาจมาศาลได้ ขอเลื่อนคดี ทนายความโจทก์แถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นเห็นว่าคำร้องขอเลื่อนคดีของจำเลยทั้งสองอ้างเหตุเพียงลอย ๆ ไม่มีพยานหลักฐานมาแสดงให้แจ้งชัดประกอบกับจำเลยทั้งสองได้ขอเลื่อนคดีมาตลอดโดยไม่เคยมีพยานมาศาลพฤติการณ์ส่อไปในทางประวิงคดีและศาลได้เคยกำชับไว้แล้วกรณีไม่มีเหตุสมควรจะอนุญาตให้จำเลยทั้งสองเลื่อนคดีอีกต่อไปถือว่าจำเลยทั้งสองไม่มีพยานมาสืบในชั้นนี้และให้งดการสืบพยานจำเลยทั้งสองแล้วมีคำสั่งว่า เมื่อจำเลยทั้งสองไม่มีพยานมาสืบตามที่อ้างประกอบกับโจทก์คัดค้าน กรณีไม่อาจรับฟังได้ตามคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสอง จึงให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การขอเลื่อนการไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองทั้งนัดแรกและนัดที่สองเกิดจากการที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าติดภาระหน้าที่ทางราชการในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งสองนัดซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้เห็นความสำคัญของภาระหน้าที่ที่จำเลยที่ 1ต้องปฏิบัติด้วยการอนุญาตให้จำเลยทั้งสองเลื่อนการไต่สวนมาแล้วทั้งนัดแรกและนัดที่สอง ทั้ง ๆ ที่การเลื่อนคดีในนัดแรกศาลชั้นต้นได้กำชับจำเลยทั้งสองมิให้ขอเลื่อนคดีอีก และการเลื่อนคดีในนัดที่สองศาลชั้นต้นสั่งชัดเจนว่าสมควรให้โอกาสแก่จำเลยทั้งสองอีกสักครั้งหนึ่งเป็นครั้งสุดท้าย จึงให้เลื่อนคดีไป การกระทำของศาลชั้นต้นดังกล่าวบ่งบอกได้ว่านอกจากศาลชั้นต้นจะให้ความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ราชการในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของจำเลยที่ 1ในแต่ละคราวแล้ว ศาลชั้นต้นได้ขอให้จำเลยทั้งสองให้ความสำคัญแก่วันนัดไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ที่จำเลยทั้งสองเป็นฝ่ายยื่นต่อศาลชั้นต้นในแต่ละนัดเพื่อการเร่งรัดคดีด้วยการที่จำเลยที่ 1 ได้รับโอกาสให้เลื่อนการไต่สวนด้วยเหตุเดียวกันคือจำเลยที่ 1 ติดภาระหน้าที่ราชการถึง 2 นัด แล้ว ย่อมนับได้ว่าศาลชั้นต้นได้ให้ความสำคัญแก่วันนัดและภาระหน้าที่ของจำเลยที่ 1เป็นอย่างมากอยู่แล้ว สมควรที่จำเลยที่ 1 จะต้องเคร่งครัดต่อคำกำชับและวันเวลานัดของศาลชั้นต้นในคราวต่อไปหรือในนัดที่สามโดยการไม่ขอเลื่อนการไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ออกไปอีกการที่จำเลยที่ 1 ไม่มาศาลในนัดที่สามโดยการโทรศัพท์แจ้งให้ทนายความจำเลยทั้งสองแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าจำเลยที่ 1 ติดประชุมปัญหาเรื่องราคากระเทียมของจังหวัดเชียงใหม่ โดยจำเลยที่ 1ไม่มีหลักฐานที่ควรแก่การเชื่อถือมาแสดงว่ามีการประชุมเรื่องดังกล่าวกันจริงและจำเลยที่ 1 จำเป็นจะต้องไปร่วมประชุมด้วยตนเอง มิอาจมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นตัวแทนไปร่วมประชุมได้ถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้ความสำคัญแก่คำกำชับและวันเวลานัดของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นวันเวลานัดของหน่วยราชการที่สำคัญหน่วยงานหนึ่งเช่นกัน ข้ออ้างของจำเลยที่ 1 จึงมิใช่เหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ หากแต่เป็นพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1จงใจประวิงคดีให้ล่าช้า ชอบที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองเลื่อนการไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ออกไปและสั่งยกคำร้องดังกล่าวด้วยเหตุที่จำเลยทั้งสองไม่มีพยานมาสืบเสียได้ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยที่ 1ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share