คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เมื่อแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ที่จำเลยขายไปเป็นจำนวนเดียวกับที่จำเลยมีอยู่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกระทำความผิดฐานขายแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของแอมเฟตามีนเพียงกระทงเดียว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 13, 62, 89, 116 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2520) ลงวันที่ 18 มกราคม 2520 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 จำคุก 5 ปี ริบของกลางเว้นเงินสด 20 บาท คำขออื่นให้ยก ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานมีแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของแอมเฟตามีนตาม มาตรา 62, 106 อีกบทหนึ่ง แต่เป็นกรรมเดียวกับการขาย ให้ลงโทษตามมาตรา 89 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า ตามวันเวลาที่โจทก์ฟ้อง พลตำรวจไพศาลสิงหศิริ ปลอมตัวเป็นคนขับรถสามล้อไปซื้อยาม้าหรือแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของแอมเฟตามีนจากจำเลย จำเลยก็หยิบออกมาจากกระเป๋าสตางค์ส่งให้และรับเงิน 20 บาทจากพลตำรวจไพศาลสิงหศิริเมื่อร้อยตำรวจเอกมทัคฆพันธ์ สุรคุปต์ เข้าจับกุมคงได้แต่ธนบัตร20 บาท จากจำเลย ค้นในตัวไม่พบแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของแอมเฟตามีนอีก ศาลฎีกาเห็นว่าแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งเป็นเกลือของแอมเฟตามีนจำนวนที่จำเลยขายไปก็เป็นจำนวนเดียวกับที่จำเลยมีอยู่นั่นเอง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 3324/2522 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดนครราชสีมา โจทก์นายเฉลิม วิเศษทรัพย์ จำเลย”

พิพากษายืน

Share