คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2513/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์เพื่อชำระราคาเรือตามสัญญาจะซื้อขายโดยโจทก์ส่งมอบเรือที่จะซื้อขายให้จำเลยไปก่อนและจำเลยสั่งจ่ายเช็คลงวันที่ล่วงหน้าให้โจทก์ไว้เป็นการชำระราคาเรือ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คโจทก์ไปยึดเรือกลับคืนมาโดยพลการไม่ใช้สิทธิตามสัญญา จำเลยก็มิได้เรียกร้องเอาเรือคืน เท่ากับสองฝ่ายเจตนาเลิกสัญญาจะซื้อขายเรือกันโดยปริยายไม่มีหนี้ผูกพันตามเช็คที่โจทก์นำมาฟ้องเรียกเป็นราคาเรือตามสัญญาจะซื้อขายกันต่อไปอีกข้อที่โจทก์อ้างว่าต้องเสียหายมากจากการที่จำเลยครอบครองใช้เรืออยู่เป็นเวลานานโดยไม่ชำระราคาเรือเป็นเรื่องนอกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คลงวันที่ล่วงหน้าชำระราคาที่ตกลงจะซื้อจากโจทก์จำนวน 5 ฉบับ สั่งจ่ายเงินฉบับละ 20,000 บาท จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คดังกล่าวทุกฉบับ ครั้นเช็คถึงกำหนดเวลาใช้เงินโจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามเช็คจำนวน 100,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงินตามเช็คแต่ละฉบับนับแต่วันที่สั่งจ่ายคิดถึงวันฟ้องเป็นเงิน 5,000 บาท กับให้ชำระดอกเบี้ยในอัตราเดียวกันจากต้นเงิน 105,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โจทก์ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ

จำเลยที่ 2 ให้การและเพิ่มเติมคำให้การว่า จำเลยที่ 2 ตกลงซื้อเรือจับปลาจากโจทก์ราคา 530,000 บาท มอบเช็คซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังให้โจทก์ไว้ 29 ฉบับ เช็ค 10 ฉบับแรกสั่งจ่ายฉบับละ 15,000 บาท นอกนั้นฉบับละ 20,000 บาท เรือที่ตกลงซื้อขายระวางบรรทุกเกินกว่า 40 ตัน โจทก์มอบเรือให้จำเลยที่ 2 ทันที แต่มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สัญญาซื้อขายจึงเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดตามเช็ค โจทก์ได้ยึดเรือคืนไปตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2519 จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องใช้เงินให้โจทก์

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจะซื้อจะขายเรือสมบูรณ์ จำเลยต้องรับผิดตามเช็ค พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 100,000 บาทให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าสัญญาเลิกกันแล้ว พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกาว่าสัญญาจะซื้อขายเรือยังไม่เลิก จำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่าสัญญาเลิกกันแล้ว จำเลยต้องรับผิดตามเช็ค

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ทำสัญญาจะซื้อเรือจากโจทก์ 1 ลำ แบ่งชำระราคาเป็นงวด ตกลงกันว่าเมื่อชำระราคาครบจะโอนทะเบียนเรือให้ โดยจำเลยที่ 1 ลงวันที่ล่วงหน้าตามกำหนดเวลาที่ต้องชำระราคาให้โจทก์ไว้ 29 ฉบับ และจำเลยที่ 2 ลงชื่อสลักหลังเช็คทุกฉบับ รวมทั้งเช็ค 5 ฉบับตามฟ้องด้วย โจทก์ส่งมอบเรือที่ตกลงซื้อขายให้จำเลยรับไปตั้งแต่วันทำสัญญาเช็คบางฉบับที่จำเลยออกเพื่อชำระราคาโจทก์ได้รับเงินไปแล้ว ต่อมามีเช็คหลายฉบับที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งข้อตกลงในสัญญาว่าหากโจทก์ไม่ได้รับเงินตามเช็คแม้ฉบับใด จำเลยที่ 2ยอมรับผิดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์อีกโสดหนึ่งเป็นจำนวนเงินสามเท่าของจำนวนเงินที่สั่งจ่ายตามเช็คแต่ละฉบับ ปรากฏว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คของจำเลย โจทก์กระทำด้วยวิธียึดเรือคืนไปจากจำเลยตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2519 โจทก์นำเช็คตามฟ้องฉบับหนึ่งไปรับเงินจากธนาคารก่อนยึดเรือมา ส่วนอีก 4 ฉบับ โจทก์ขอรับเงินจากธนาคารภายหลังมายึดเรือคืนแล้ว ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าวทุกฉบับ โจทก์ฟ้องคดีนี้เรียกราคาเรือที่ค้างชำระตามเช็คดังกล่าว จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่าโจทก์ยึดเรือกลับคืนไป จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องใช้เงินให้โจทก์ ปัญหาที่ว่าโจทก์จะเรียกเงินตามเช็คเป็นราคาเรือได้หรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับข้อวินิจฉัยที่ว่าสัญญาจะซื้อขายเรือระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 ยังมีผลบังคับอยู่หรือสัญญานี้เลิกกันแล้ว พฤติการณ์ที่โจทก์ส่งมอบเรือซึ่งตกลงจะซื้อขายให้จำเลยไปก่อน ต่อมาไปยึดเรือกลับคืนโดยพลการไม่ใช้สิทธิตามสัญญา แสดงเจตนาของโจทก์ว่าไม่ต้องการจะบังคับตามสัญญาต่อไป ส่วนจำเลยก็ปฏิเสธว่าไม่มีหน้าที่ชำระราคาเรือให้โจทก์ตามสัญญา และมิได้ฟ้องเรียกเอาเรือคืน เท่ากับทั้งสองฝ่ายเจตนาเลิกสัญญาจะซื้อขายกันโดยปริยาย จึงไม่มีหนี้ผูกพันตามเช็คที่โจทก์มาฟ้องเรียกเป็นราคาเรือตามสัญญาจะซื้อขายกันต่อไปอีก ตามที่โจทก์อ้างว่าโจทก์ต้องเสียหายมากจากการที่จำเลยครอบครองใช้เรืออยู่เวลานาน โดยไม่ชำระราคาเรือให้นั้นเป็นเรื่องนอกฟ้อง

พิพากษายืน หากโจทก์เสียหายไม่ตัดสิทธิโจทก์ในการที่จะฟ้องเรียกร้องต่อไปภายในอายุความ

Share