คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จและเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 และ 177มีองค์ประกอบความผิดสำคัญประการหนึ่งว่า พยานหลักฐานและคำเบิกความอันเป็นเท็จจะต้องเป็นข้อสำคัญในคดีที่นำสืบหรือเบิกความด้วย ดังนั้นประเด็นสำคัญในคดีมีว่าอย่างไรพยานหลักฐานและคำเบิกความของจำเลยที่ 1 เป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร จึงเป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของความผิดที่โจทก์จะต้องบรรยายไว้ให้ชัดแจ้งในคำฟ้องเมื่อคำฟ้องของโจทก์หาได้บรรยายถึงสาระสำคัญเช่นว่านั้นไม่ถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177, 180,350, 83, 90, 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ แต่เป็นความผิดฐานนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานเท็จและฐานเบิกความเท็จซึ่งเป็นการกระทำโดยมีเจตนาอันเดียวกัน พิพากษาว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177, 180 (ที่ถูกมาตรา 177 วรรคแรก,180 วรรคแรก) ประกอบด้วยมาตรา 83 เป็นการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามมาตรา 177(ที่ถูกมาตรา 177 วรรคแรก) อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญาอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 3 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 และ 180 เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 และ180 เสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฎีกาเฉพาะจำเลยที่ 2 ศาลฎีกาอนุญาตและให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2เสียจากสารบบความ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยเฉพาะเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ว่า ฟ้องโจทก์ในข้อหานำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 และข้อหาเบิกความอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) หรือไม่ เห็นว่าความผิดฐานนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ และเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 และ 177 นั้น มีองค์ประกอบความผิดสำคัญประการหนึ่งว่า พยานหลักฐานและคำเบิกความอันเป็นเท็จจะต้องเป็นขอสำคัญในคดีที่นำสืบหรือเบิกความด้วย ดังนั้นประเด็นสำคัญในคดีมีว่าอย่างไร พยานหลักฐานและคำเบิกความของจำเลยที่ 1เป็น ข้อสำคัญในคดีอย่างไร จึงเป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของความผิดที่โจทก์จะต้องบรรยายไว้ให้ชัดแจ้งในคำฟ้อง แต่ตามคำฟ้องของโจทก์ในคดีนี้ โจทก์หาได้บรรยายถึงสาระสำคัญเช่นว่านั้นไม่ ถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
พิพากษายืน

Share