คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2506/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่สามีไปได้ภริยาน้อยจนกระทั่งมีบุตรด้วยกันภริยาหลวงย่อมจะต้องมีความหึงหวงเป็นธรรมดา ภริยาด่าสามีด้วยอารมณ์หึงหวงอันเกิดจากความรักความหวงแหนหาเป็นการร้ายแรงที่จะอ้างมาเป็นเหตุหย่าได้ไม่ และการทำร้ายร่างกายด้วยสาเหตุดังกล่าวเมื่อไม่ปรากฏว่าสามีได้รับอันตรายร้ายแรงจากบาดแผลนั้นแต่อย่างใด ก็ไม่เข้าลักษณะของการทำร้ายอันเป็นการร้ายแรงที่จะถือเป็นเหตุหย่าได้เช่นกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นสามีจำเลย จำเลยได้ด่าว่าทำร้ายร่างกายโจทก์หลายครั้ง เป็นการทรมานจิตใจและหมิ่นประมาทเหยียดหยามโจทก์เป็นการร้ายแรง ขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยา

จำเลยให้การว่า ไม่เคยด่า ไม่เคยทำร้าย ไม่เคยทรมานจิตใจ และไม่เคยหมิ่นประมาทโจทก์ โจทก์ไปได้ น. เป็นภรรยาใหม่จึงหาเหตุมาฟ้องหย่าจำเลย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่โจทก์ไปได้ น. เป็นภริยาน้อยจนกระทั่งจะมีบุตรด้วยกัน จำเลยซึ่งเป็นภริยาหลวงย่อมจะต้องมีความหึงหวงเป็นธรรมดา ที่โจทก์ละทิ้งจำเลยไปอยู่กับภริยาใหม่ก็ย่อมจะต้องเกิดการทะเลาะด่าว่ากันระหว่างสามีภริยาเป็นธรรมดาวิสัยเหตุแห่งความยุ่งยากเหล่านี้โจทก์เป็นผู้ก่อขึ้นทั้งสิ้น และการทะเลาะด่าว่ากันนี้ก็เป็นเรื่องเกิดขึ้นภายในบ้านภายในครอบครัว จำเลยไม่เคยไปด่าว่าโจทก์ที่ตลาด จะมีที่อื่นบ้างก็เพียงที่บ้าน น. ภริยาน้อยเท่านั้น ถ้อยคำที่จำเลยยกมาด่าว่าโจทก์ล้วนเป็นการระบายอารมณ์หึงสุดขีดของหญิงที่อยู่ในสภาพชอกช้ำระกำใจ เห็นได้ว่าจำเลยหาได้มีเจตนาหมิ่นประมาทโจทก์จริงจังไม่เป็นการด่าว่ากันด้วยอารมณ์หึงหวงอันเกิดจากความรักความหวงแหนในสามีของตนนั่นเองคำด่าของจำเลยในลักษณะดังกล่าวหาเป็นการร้ายแรงที่โจทก์จะอ้างมาเป็นเหตุหย่าได้ไม่

ในประเด็นเรื่องทำร้ายร่างกาย การที่จำเลยทะเลาะกับโจทก์ที่บ้านจำเลย แล้วจำเลยหยิบขวดน้ำปลาตีหน้าโจทก์แตกโลหิตไหลนั้น ก็เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันภายในบ้านระหว่างสามีภริยาอันเนื่องมาจากความหึงหวง ซึ่งไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับอันตรายร้ายแรงจากบาดแผลนั้นแต่อย่างใด จึงไม่เข้าลักษณะของการทำร้ายอันเป็นการร้ายแรงที่จะถือเป็นเหตุหย่าได้

พิพากษายืน

Share