คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6527/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

แม้สายลับจะมอบเงินที่ใช้ล่อซื้อให้แก่จำเลยรับไปแล้ว และจำเลยได้เตรียมเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายสับตามจำนวนที่ตกลงล่อซื้อกันไว้ก็ตาม แต่จำเลยยังมิได้ส่งมอบเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวให้แก่สายลับ การซื้อขายเมทแอมเฟตามีนระหว่างจำเลยกับสายลับจึงยังไม่สำเร็จสมบูรณ์ เมื่อจำเลยถูกจับกุมเสียก่อน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91 ริบเมทแอมเฟตามีน เงินสด 180,000 บาท และรถยนต์ของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง, 66 วรรคสอง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกตลอดชีวิต ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 30 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53, 78 (ที่ถูกมาตรา 78 ประกอบมาตรา 53) ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 25 ปี ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 15 ปี รวมจำคุก 40 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (ที่ถูกมาตรา 15 วรรคหนึ่งและวรรคสอง), 66 วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกตลอดชีวิต ฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 20 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุกฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย 25 ปี ฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 10 ปี รวมจำคุก 35 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยและยึดเมทแอมเฟตามีนจำนวน 19,000 เม็ด น้ำหนัก 1,720.250 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 424.730 กรัม เป็นของกลาง ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่าการที่เจ้าพนักงานตำรวจให้สายลับติดต่อล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยจำนวน 2 มัด มัดละ 2,000 เม็ด รวม 4,000 เม็ด ในราคา 100,000 บาท และตกลงนัดหมายที่จุดนัดพบ เมื่อถึงกำหนดนัด สายลับส่งมอบเงินจำนวน 100,000 บาท ให้แก่จำเลยรับไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจำเลยได้เตรียมเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 มัด มัดละ 2,000 เม็ดเพื่อให้แก่สายลับตามที่ตกลงกันไว้ ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนสำเร็จแล้วหรือไม่นั้น ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนี้ ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้วินิจฉัยมาแล้ว โดยศาลอุทธรณ์ภาค 1 รับฟังข้อเท็จจริงว่า ในวันเกิดเหตุจำเลยมาพบสายลับตามที่นัดหมาย สายลับส่งถุงกระดาษบรรจุธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อให้จำเลย จำเลยรับไปเปิดดูแล้วใส่กระเป๋ากางเกง จำเลยกับสายลับพากันเข้าไปในห้องพักจำเลย สักครู่สายลับเปิดประตูแง้มไว้เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมเข้าไปในห้องแล้วแสดงตัวขอตรวจค้นพบธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อในกระเป๋ากางเกงจำเลย และพบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 3,800 เม็ด ในโต๊ะเครื่องแป้งโดยบรรจุในถุงพลาสติกห่อหุ้มด้วยกระดาษกาวสีน้ำตาลอีกชั้นหนึ่งขณะจำเลยยังไม่ทันส่งมอบเมทแอมเฟตามีนแก่สายลับ เจ้าพนักงานตำรวจได้เข้าจับกุมจำเลยดังนี้เห็นว่า แม้สายลับจะมอบเงินที่ใช้ล่อซื้อให้แก่จำเลยรับไปแล้วและจำเลยได้เตรียมเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับตามจำนวนที่ตกลงล่อซื้อกันไว้ก็ตาม แต่จำเลยยังมิได้ส่งมอบเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวให้แก่สายลับ การซื้อเมทแอมเฟตามีนระหว่างจำเลยกับสายลับจึงยังไม่สำเร็จบริบูรณ์ เมื่อจำเลยถูกจับกุมเสียก่อน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดเพียงฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายในสถานเบานั้น เห็นว่า ปริมาณเมทแอมเฟตามีนของกลางในคดีนี้ซึ่งจำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 424.730 กรัม ปริมาณสารบริสุทธิ์จึงเกิน 100 กรัม ขึ้นไป บทกำหนดโทษตามมาตรา 66 วรรคสอง (เดิม) ที่ใช้บังคับในขณะกระทำความผิด ให้จำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ให้จำคุกตลอดชีวิตอันเป็นโทษขั้นต่ำตามกฎหมายแล้ว ศาลฎีกาย่อมไม่อาจวางโทษจำคุกจำเลยให้เบากว่านี้ได้อีก ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share