คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6227/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ธนบัตรของกลางดังกล่าวไม่ใช่เครื่องมือ เครื่องใช้ ยานพาหนะหรือวัตถุอื่น ซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 102 และไม่ใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติว่า ผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยกระทำผิดซึ่งหมายถึงเฉพาะความผิดที่กระทำในคดีนี้ตาม ป.อ. มาตรา 32, 33 (2) ดังนั้น จึงไม่อาจริบธนบัตรของกลางที่ไม่ได้มาจากการกระทำความผิดคดีนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง, 66 วรรคสอง ลงโทษประหารชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) กึ่งหนึ่ง คงจำคุกตลอดชีวิต ริบของกลางทั้งหมด
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน แต่ไม่ริบเงินจำนวน 1,200 บาท ของกลาง
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการแรกว่าธนบัตรของกลางจำนวน 1,200 บาท ชอบที่ศาลจะริบหรือไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่า แม้ธนบัตรของกลางดังกล่าวจะไม่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีนี้ ศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งริบได้นั้น เห็นว่า ธนบัตรของกลางดังกล่าวไม่ใช่เครื่องมือ เครื่องใช้ ยานพาหนะหรือวัตถุอื่น ซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102 และไม่ใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติว่า ผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยกระทำผิด ซึ่งหมายถึงเฉพาะความผิดที่กระทำในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33 (2) ดังนั้น จึงไม่อาจริบธนบัตรของกลางได้ตามขอ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 มีคำสั่งไม่ริบธนบัตรของกลาง จึงชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า สมควรลงโทษจำเลยในสถานเบากว่าที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามาหรือไม่ เห็นว่า แม้เมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจะมีมากถึง 13,900 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 309.068 กรัม ซึ่งตามพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง แต่จำเลยเป็นหญิงทั้งข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเป็นเพียงผู้รับจ้างขน เมื่อถูกจับก็ให้การรับสารภาพตลอดมา การที่ศาลล่างทั้งสองวางโทษประหารชีวิต อันเป็นอัตราโทษสูงสุดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ในความผิดฐานดังกล่าวจึงหนักเกินไป สมควรแก้ไขเสียใหม่ให้เหมาะสม ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุก 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6

Share