แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามฟ้อง แต่พนักงานเดินหมาย ส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องให้ไม่ได้ เพราะบ้านเลขที่ดังกล่าวถูกรื้อ ไปแล้ว ศาลชั้นต้นจึงอนุญาตให้ประกาศหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องให้จำเลย หลังจากนั้นในการแจ้งวันนัด ตลอดจนการแจ้งการยึดทรัพย์และวันขายทอดตลาดทำโดยการปิดประกาศที่หน้าศาลถือได้ว่าการส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาด ให้จำเลย ไม่สามารถทำได้โดยวิธีธรรมดา ดังนี้ที่ศาลชั้นต้นอนุญาต ให้ส่งหนังสือดังกล่าวโดยการปิดประกาศหน้าศาล เป็นการใช้ดุลพินิจ สั่งโดยชอบ ถือว่าจำเลยทราบวันขายทอดตลาดแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินพิพาทรวม 3 ครั้งเป็นเวลาเกือบ 5 เดือน ครั้งสุดท้ายมีผู้เข้าสู้ราคา 5 คน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายแก่ผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน 2,680,000 บาท สูงกว่าราคาประเมิน ที่จำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทมีราคาไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาทก็เป็นเพียงการคาดคะเน เมื่อไม่ปรากฏว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิบัติฝ่าฝืนกฎหมาย ถือว่าการขายทอดตลาด ชอบแล้ว.
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินจำนวน 4,044,557 บาท พร้อมดอกเบี้ย โดยให้จำเลยที่ 2ไถ่ถอนจำนองที่ดินโฉนดที่ 27662 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง และให้จำเลยที่ 3 และที่ 4 ไถ่ถอนจำนองที่ดินโฉนดที่ 19995 และ 15320 พร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อชำระเงินดังกล่าว หากจำเลยทั้งสี่ไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วน ให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาด ถ้าได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 รับผิดชดใช้ส่วนที่ขาดจนครบ ต่อมาจำเลยทั้งสี่ไม่ชำระเงิน โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน 3 แปลงดังกล่าวออกขายทอดตลาด ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 15320 และ 19995 ในราคา 2,680,000 บาท
จำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 4 ไม่เคยทราบเรื่องที่โจทก์ฟ้องและการขายทอดตลาดทรัพย์ ราคาที่ขายดังกล่าวต่ำกว่าราคาที่ซื้อขายกันจริง ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 4
จำเลยที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามสำเนาทะเบียนบ้านของจำเลยที่ 4 ระบุว่าจำเลยที่ 4 มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 16/20-21-22 ซอยรองเมือง 5 ตำบลรองเมือง อำเภอปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ในชั้นส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้อง ให้จำเลยที่ 4 พนักงานเดินหมายรายงานว่าส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลยที่ 4 ไม่ได้ เพราะหาบ้านเลขที่ดังกล่าวของจำเลยที่ 4 ไม่พบ ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่าโจทก์ไปสืบหาบ้านดังกล่าวแล้วโดยสอบถามบุรุษไปรษณีย์และบ้านข้างเคียงแจ้งว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวรื้อถอนไปแล้ว และเหตุที่ยังมีบ้านเลขที่ดังกล่าวในทางทะเบียน เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ได้แจ้งการรื้อถอนให้ทางเขตปทุมวันทราบ จึงขออนุญาตศาลประกาศทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลยที่ 4 ทราบ ศาลชั้นต้นอนุญาตกระบวนพิจารณาหลังจากนั้นในการแจ้งวันนัดตลอดจนการแจ้งการยึดทรัพย์และวันขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทศาลชั้นต้นอนุญาตให้ทำได้ด้วยการปิดประกาศไว้ที่หน้าศาลชั้นต้นทุกครั้ง ดังนี้ถือได้ว่าการส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 ไม่สามารถจะทำได้โดยวิธีส่งธรรมดา จึงต้องส่งโดยวิธีอื่นแทนดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคแรก เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ส่งหนังสือดังกล่าวให้จำเลยที่ 4 ทราบโดยวิธีปิดประกาศไว้ที่หน้าศาลชั้นต้น จึงเป็นการใช้ดุลพินิจสั่งตามที่เห็นสมควรชอบด้วยกฎหมาย และการปิดประกาศที่หน้าศาลชั้นต้นดังกล่าวย่อมมีผลถือได้ว่าจำเลยที่ 4 ทราบวันขายทอดตลาดที่ดินพิพาทแล้ว จำเลยที่ 4 จะโต้แย้งว่าจำเลยที่ 4 ไม่ทราบวันขายทอดตลาดเพราะเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้แจ้งวันขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 4ทราบ ณ ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 4 ซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจศาลชั้นต้นหรือโดยประกาศทางหนังสือพิมพ์หาได้ไม่ ที่จำเลยที่ 4 ฎีกาว่า ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายที่ดินพิพาทในราคาต่ำเกินไปนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าที่ดินพิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดและประกาศ ขายทอดตลาดนั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาไว้ 2,298,000 บาท และเจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินพิพาทรวม 3 ครั้ง นานเกือบ 5 เดือนครั้งที่ 3 มีผู้เข้าสู้ราคาถึง 5 ราย โดยมีผู้ให้ราคาสูงสุด2,680,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ โจทก์ไม่คัดค้านดังนั้นที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายให้แก่ผู้ให้ราคาสูงสุดดังกล่าวเป็นการขายในราคาที่สมควรแล้ว ที่จำเลยที่ 4 ฎีกาว่าที่ดินพิพาทจะขายได้ไม่น้อยกว่า 3,000,000 บาท นั้น เห็นว่า เป็นการคาดคะเนเอาเอง ไม่มีพยานหลักฐานใดมาสนับสนุนให้เห็นเช่นนั้น เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีหรือการขายทอดตลาดขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎกระทรวงที่ว่าด้วยการขายทอดตลาดทรัพย์สินจำเลยที่ 4 จึงไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินพิพาทและขอให้ขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวใหม่ได้..”
พิพากษายืน.