คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมดื่มสุรากันที่ร้านค้าแล้วพากันนั่งรถจักรยานยนต์ไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้ตายกำลังนั่งจดบัญชีรายการไม้อยู่ จำเลยที่ 1 หยุดรถ พวกของจำเลยลงจากรถใช้อาวุธปืนของกลางยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย แล้วทุกคนพากันนั่งรถจักรยานยนต์กลับไปที่ฐานปฏิบัติการอาสาสมัครรักษาดินแดนที่จำเลยที่ 1เป็นสมาชิกอยู่ หลังจากนั้นพากันไปดื่มสุรากันอีก และได้นอนค้างคืนที่บ้านพักของจำเลยที่ 1 ซึ่งอยู่ติดกับฐานปฏิบัติการดังกล่าว เช้าวันรุ่งขึ้นจำเลยที่ 2 กับพวกได้แยกย้ายกันกลับไปพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่า จำเลยทั้งสองมีเจตนาร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางเป็นของทางราชการที่มอบให้จำเลยที่ 1 ไว้ใช้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ แม้จำเลยที่ 1จะไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองก็ตามเมื่อจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และพวกครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้นำไปใช้ฆ่าผู้ตาย จำเลยที่ 2 ย่อมมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไว้ในครอบครอง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 334,335, 371, 33, 83, 91 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4,8 ทวิ, 55, 72 ทวิ, 78 ริบปลอกกระสุนปืนเล็กกลขนาด .223 จำนวน1 ปลอก คืนอาวุธปืนเล็กกล ขนาด .223 หมายเลขประจำปืน 9546135และนาฬิกาของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 371, 83 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา 4, 8 ทวิ วรรคสอง, 72 ทวิ วรรคสอง จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7) พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา55, 78 เป็นความผิดหลายกรรม เรียงกระทงลงโทษ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองฯเป็นกรรมเดียวกันกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคสอง, 72 ทวิ วรรคสองซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุกคนละ 2 ปี จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองจำคุก 6 ปี ฐานลักทรัพย์จำคุก 2 ปี ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามมาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจำคุกตลอดชีวิตเมื่อลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้วจึงไม่อาจนำโทษกระทงอื่นมารวมกับโทษในข้อหานี้ได้ คงลงโทษจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ริบปลอกกระสุนปืนเล็กกล ขนาด .223 จำนวน 1 ปลอก คืออาวุธปืนเล็กกล ขนาด .223จำนวน 1 กระบอก และนาฬิกายี่ห้อแซนด๊อช 1 เรือน ของกลางแก่เจ้าของ ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยกฟ้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ฐานพาอาวุธปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคสอง,72 ทวิ วรรคสอง นอกจากที่แก้คงให้เป็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายโดยฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าจำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คน ได้นั่งรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 1เป็นผู้ขับไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้ตายกำลังนั่งจดบัญชีรายการไม้อยู่ในที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 1 หยุดรถ แล้วพวกของจำเลยได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ของกลางยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ปัญหาวินิจฉัยจึงอยู่ที่ว่า จำเลยทั้งสองมีเจตนาร่วมกับพวกของจำเลยในการฆ่าผู้ตายหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่า ก่อนที่จำเลยทั้งสองกับพวกจะขับรถจักรยานยนต์ไปพบผู้ตายนั้น จำเลยทั้งสองกับพวกดังกล่าวได้ร่วมดื่มสุรากันที่ร้านค้าของนายห้วน เสร็จแล้วจึงพากันขับรถจักรยานยนต์เพื่อไปฐานปฏิบัติการอาสาสมัครรักษาดินแดน โดยจำเลยที่ 1 ให้พวกของจำเลยเป็นคนถืออาวุธปืนเอ็ม 16 ของกลาง เมื่อผ่านที่เกิดเหตุ เห็นผู้ตายนั่งจดบัญชีรายการไม้อยู่ พวกของจำเลยสั่งให้หยุดรถ แล้วพวกของจำเลยยิงผู้ตาย จากนั้นจำเลยทั้งสองกับพวกก็พากันขับรถจักรยานยนต์กลับมาที่ฐานปฏิบัติการอาสาสมัครรักษาดินแดน ซื้อสุรามาดื่มกันอีกแล้วทั้งสามคนได้นอนค้างคืนที่บ้านพักของจำเลยที่ 1 ซึ่งอยู่ติดกับฐานปฏิบัติการดังกล่าวเช้าวันรุ่งขึ้นจำเลยที่ 2 และพวกของจำเลยต่างแยกย้ายกันกลับไปและก่อนเกิดเหตุจำเลยทั้งสองกับพวกได้เรียกค่าคุ้มครองการทำไม้จากผู้ตายแต่ผู้ตายไม่ยอมให้ พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยทั้งสองกับพวกได้สมคบกันฆ่าผู้ตาย ฯลฯ
พิพากษายืน.

Share