คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นผู้ร่วมกระทำผิด ด้วย กันแต่ทางพิจารณาได้ความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็น การใช้ให้ผู้อื่นฆ่าผู้ตาย ดังนี้ จะลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกัน ฆ่าผู้ตายไม่ได้เพราะข้อเท็จจริงแตกต่างกันในส่วนสาระสำคัญตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192วรรคสอง แต่การที่จำเลยที่ 1 ร้องสั่งให้จำเลย ที่ 2 ทำร้ายผู้ตายนั้นเป็นการยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิด เป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 86 ด้วย ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2531 เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้มีดดาบยาวประมาณ 18 นิ้วฟันศรีษะนายสมนึก จารุไพโรจน์ โดยมีเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้นายสมนึกถึงแก่ความตาย หลังจากนั้นจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันซ่อนเร้นศพของผู้ตายเพื่อปิดบังการตายและเหตุแห่งการตาย เหตุเกิดที่แขวงช่องนนทรีเขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ต่อมาเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้และยึดอาวุธมีดดาบ 1 เล่ม เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 199, 83, 91 และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 288 กระทงหนึ่ง และมาตรา 83, 199 อีกกระทงหนึ่งจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 199 ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่น จำคุกตลอดชีวิต และลงโทษจำเลยทั้งสองฐานซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตาย จำคุกคนละ 1 ปี คำรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ประกอบมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 34 ปี จำเลยที่ 2 ต้องขังพอแก่โทษแล้วให้ปล่อยตัวไป ริบมีดของกลาง คำขออื่นให้ยกเสีย
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 199, 91 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามมาตรา 288 จำคุกตลอดชีวิต ตามมาตรา 199จำคุก 1 ปี จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีมาก อันเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้มีกำหนด 25 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ตายถูกฟันทำร้ายจนถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยที่ 1 ถือได้ว่าเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นฆ่าผู้ตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84ดังนี้จะลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาเป็นเรื่องที่จำเลยที่ 1 ก่อให้ผู้อื่นกระทำผิด แต่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน เป็นการแตกต่างกันในสาระสำคัญตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง แต่การที่จำเลยที่ 1 ร้องสั่งให้จำเลยที่ 2 ทำร้ายผู้ตายเป็นการยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิด เป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ด้วย ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษได้”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 86, 53 จำคุก 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 1ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 16 ปี 8 เดือน รวมโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199อีก 6 เดือน เป็นจำคุกทั้งสิ้น 16 ปี 14 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share