แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน อ้างว่าเป็นเพราะความพลั้งเผลอของทนายจำเลยโดยมิได้จงใจ และมิใช่เพื่อประวิงการดำเนินคดีของศาล ภายหลังที่ศาลสืบพยานโจทก์เสร็จและนัดฟังคำพิพากษาแล้ว ดังนี้ ไม่เป็นเหตุที่จะอ้างได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม และถือไม่ได้ว่ามีเหตุสมควรอื่นใด ที่จะ อนุญาต
ย่อยาว
ในวันนัดสืบพยาน เมื่อโจทก์สืบพยานหมดแล้ว โจทก์แถลงว่า จำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยรับว่าไม่ได้ยื่นจริง ขออนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยาน ศาลชั้นต้นเห็นว่ายังไม่มีเหตุสมควรอนุญาต แล้วนัดฟังคำพิพากษา ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาลและขอให้ศาลอนุญาตให้ยื่นบัญชีระบุพยาน ศาลชั้นต้นสั่งว่าไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าและภาษีโรงเรือนที่ค้างชำระ ให้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากตึกแถว ให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยเพิ่งมายื่นคำร้องขออื่นบัญชีระบุพยานภายหลังที่โจทก์สืบพยานเสร็จและนัดฟังคำพิพากษาแล้วซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม ที่จะนำมาปรับแก่กรณีนี้บัญญัติว่า “คู่ความฝ่ายใดมีเหตุอันสมควรแสดงว่าตนไม่สามารถทราบได้ว่าต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อประโยชน์ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใด คู่ความฝ่ายนั้นชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนพิพากษาคดี ขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานเช่นว่านั้น ถ้าศาลเห็นว่าเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานเช่นว่านั้น ก็ให้ศาลอนุญาตตามคำขอ” ดังนี้ การที่จำเลยยื่นคำร้องอ้างว่าที่ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก็เป็นเพราะความพลั้งเผลอของทนายจำเลยโดยไม่ได้จงใจ และมิใช่เพื่อประวิงการดำเนินคดีของศาลภายหลังที่ศาลสืบพยานโจทก์เสร็จและนัดฟังคำพิพากษาแล้วเช่นนี้ยังไม่เป็นเหตุที่จะอ้างได้ตามบทกฎหมายดังกล่าว และถือไม่ได้ว่ามีเหตุอันสมควรอื่นใด มิฉะนั้นแล้วก็จะเป็นข้ออ้างกันได้เรื่อยไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานนั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ