คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2451/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกระทำอันเป็นความผิดตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 นั้นมีหลายประการด้วยกันหาใช่จำกัดเฉพาะการนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษีหรือที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเท่านั้นไม่จำเลยละเว้นไม่แสดงประเภทพิกัดให้ตรงความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรให้น้อยลง การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร หรือหลีกเลี่ยงบทกฎหมายและข้อจำกัดใด ๆ อันเกี่ยวแก่การนำของเข้าโดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลตามความในมาตรานี้
สำหรับค่าปรับตามมาตรา 27 นั้น กฎหมายกำหนดให้ปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรด้วยแล้ว ค่าอากรในที่นี้หมายถึงค่าอากรตามอัตราที่จำเลยต้องชำระโดยไม่คำนึงถึงว่าจำเลยได้ชำระค่าอากรไว้แล้วเพียงไรหรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันนำสินค้ากลูโคสที่ยังมิได้เสียภาษีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรให้ถูกต้องตามกฎหมาย และร่วมกันสำแดงประเภทพิกัดอัตราที่จะต้องเสียภาษีอากรอันเป็นเท็จ เป็นความไม่บริบูรณ์และเป็นความชักพาให้ผิดหลง เพื่อหลีกเลี่ยงอากรศุลกากรอันเกี่ยวกับการนำสินค้าขาเข้าโดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล เป็นเหตุให้เงินค่าอากรขาดไปรวมทั้งสิ้น 21,486 บาท ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27, 99, 106 ฯลฯ

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามมาตรา 27 ส่วนความผิดตามมาตรา 99 คดีขาดอายุความแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามมาตรา 27

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 27 ให้ปรับจำเลยทั้งสองสำหรับความผิดครั้งหนึ่ง ๆ สี่เท่าราคาของซึ่งรวมค่าอากรด้วยแล้วรวมปรับจำเลยทั้งสองเป็นเงิน 391,172.60 บาท

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยสั่งสินค้ากลูโคสไซรับเข้ามา 3 ครั้งเป็นเงิน58,918.90 บาท สินค้าดังกล่าวต้องเสียอากรในประเภทพิกัด 17.02 ก. แต่กลับสำแดงว่าสินค้าของตนเป็นประเภทพิกัด 17.02 ข. เป็นเหตุให้รัฐขาดค่าอากรไป 21,486 บาท เป็นการละเว้นไม่สำแดงประเภทพิกัดให้ตรงตามความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรให้น้อยลง การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร หรือหลีกเลี่ยงบท กฎหมายและข้อจำกัดใด ๆ อันเกี่ยวแก่การนำของเข้าโดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลตามความในมาตรา 27 การกระทำอันเป็นความผิดตามความในมาตรา 27 นั้น มีหลายประการด้วยกัน หาใช่จำกัดเฉพาะการนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษีหรือยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องไม่

ส่วนค่าปรับตามมาตรา 27 นั้น กฎหมายกำหนดให้ปรับเป็นจำนวนสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรด้วยแล้ว ค่าอากรในที่นี้หมายถึงค่าอากรตามอัตราที่จำเลยจะต้องชำระโดยไม่คำนึงว่าจำเลยได้ชำระค่าอากรไว้แล้วเพียงใดหรือไม่ หาใช่จำเลยชำระค่าอากรไปแล้วเท่าใดให้นำไปหักออกจากค่าอากรเสียก่อน เหลือค่าอากรที่ยังไม่ได้ชำระเท่าใดจึงคำนวณค่าปรับสี่เท่าของราคาของซึ่งรวมค่าอากรด้วยไม่

พิพากษายืน

Share