แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้มาก ก็ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี ดังนั้น โจทก์ฎีกาขออย่าให้รอการลงโทษ
จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในดุลพินิจการลงโทษของศาล
ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนลูกซองพกยังมิได้จดทะเบียน และกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้จำคุก 6 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ริบของกลาง ไม่มีเหตุรอการลงโทษ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้รอการลงโทษจำเลยไว้ 3 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
โจทก์ฎีกาขออย่าให้รอการลงโทษ
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือนแต่ไม่รอการลงโทษจำคุกให้จำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 3 ปี แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้มาก ก็ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี คดีของโจทก์ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
โจทก์ฎีกาในข้อดุลพินิจการลงโทษของศาล จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา
ให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย