แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เครื่องจักรขุดแร่ซึ่งต้องอาศัยกำลังไฟฟ้าจากเครื่องไฟฟ้าซึ่งต้องเสียภาษีแล้วนั้น ต้องเสียภาษีต่างหากจากเครื่องไฟฟ้า
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่าโจทก์มีเครื่องทำไฟฟ้า ๓ เครื่องรวม ๑๐๖๙ แรงม้าซึ่งเสียภาษีไปถูกต้องแล้ว แต่โจทก์ยังมีเครื่องจักร์อีก ๓๖เครื่องรวม ๑๖๑๒ ๑/๒ แรงม้าสำหรับทำการขุดแร่ เครื่องจักรทั้ง๓๖ เครื่องนี้ต้องได้รับกำลังไฟฟ้าจากเครื่องทำไฟฟ้าจึงจะเกิดกำลังแรงม้าและทำการได้ แต่ลำพังเครื่องทำไฟฟ้าจะทำการขุดแร่มิได้ เจ้าพนักงานสรรพากรจังหวัดระนองชี้ขาดให้โจทก์ชำระค่าภาษีในเครื่องจักร์ ๓๖ เครื่องนี้ด้วย โจทก์อุทธรณ์ต่อข้าหลวงประจำจังหวัด ๆ ชี้ขาดให้โจทก์ชำระเงินนั้น โจทก์จึงยื่นคำร้องคัดค้านการเรียกเก็บเงินค่าภาษีสำหรับเครื่องจักร์ ๓๖ เครื่อง จำนวน ๑๖๑ ๑/๒ แรงม้านั้นกับขอให้ศาลสั่งคืนเงิน ๓๒๒๖ บาทซึ่งได้ชำระไปสำหรับค่าภาษีนี้แล้วให้แก่โจทก์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อโจทก์เองรับว่าเครื่องจักร์ ๓๖ เครื่องนี้ใช้ทำการขุดแร่จึงเป็นเครื่องจักร์ซึ่งโจทก์ใช้สำหรับประกอบการอุตสาหกรรมของโจทก์ ๆ จะต้องเสียภาษีโรงค้าตามประมวลรัษฎากร พ.ศ.๒๔๘๑ ม.๗๙ ข้อ๒ (ข) โดยไม่มีปัญหา อนึ่งเครื่องจักร์ทั้ง ๓๖ เครื่องนี้ก็แสดงให้เห็นชัดว่าเป้นเครื่องต่างชุดกับเครื่องไฟฟ้า ๓ เครื่องนั้นด้วย หากแต่เครื่องจักร์เหล่านี้มิได้กำลังแรงในตนเองไปอาศัยกำลังแรงของเครื่องจักร์ไฟฟ้าเช่นโรงเลื่อยจักร์ที่อาศัยกำลังแรงมาจากโรงไฟฟ้าเท่านั้นจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์