คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13289/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์จะเปลี่ยนชื่อก่อนรับมอบอำนาจจากโจทก์ในคดีนี้แต่ก็เป็นบุคคลคนเดียวกัน การที่โจทก์มอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้แทน โดยระบุชื่อเดิมของผู้รับอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจ จึงไม่ทำให้การมอบอำนาจนั้นเสียไป

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้คู่ความฟังแล้ว โจทก์ประสงค์จะยื่นฎีกา และยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา โดยนายจื้อ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2555 และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบทั้งหมดและมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า นายจื้อ และนายติ่ง เป็นบุคคลคนเดียวกัน กรณียังไม่มีเหตุการณ์พิจารณาที่ผิดระเบียบ ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า คำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาของโจทก์ที่ระบุชื่อ นายจื้อ ฉบับลงวันที่ 8 มีนาคม 2555 และฉบับลงวันที่ 19 เมษายน 2555 เป็นคำร้องที่ผิดระเบียบและไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จำเลยทั้งสองฎีกาว่านายจื้อ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ตามหนังสือมอบอำนาจนั้น ได้เปลี่ยนชื่อเป็นนายติ่ง มาก่อนเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว การที่โจทก์ยื่นคำร้องทั้งสองฉบับดังกล่าวโดยยังใช้ชื่อเดิมมีเจตนาไม่สุจริตโดยไม่เขียนรายการในคำร้องของตนเองให้ถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมายในข้อที่มุ่งหมายจะให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมหรือเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้ง ๆ ที่ชื่อเดิมของผู้รับมอบอำนาจได้ยกเลิกไปแล้วแต่ผู้รับมอบอำนาจโจทก์กลับเจตนาใช้ชื่อเก่าแทน คำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาของโจทก์ทั้งสองฉบับดังกล่าวจึงไม่ถูกต้องด้วยกฎหมาย ต้องถือว่านายจื้อ ไม่มีตัวตนขณะยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาดังกล่าว และเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและขัดต่อกฎหมายโดยมีเจตนาไม่สุจริต เป็นโมฆะ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าแม้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์จะเปลี่ยนชื่อจากนายจื้อ เป็น ติ่ง ก่อนรับมอบอำนาจจากโจทก์ในคดีนี้ แต่นายจื้อ หรือนายติ่ง เจิ้น ก็เป็นบุคคลคนเดียวกัน การที่โจทก์มอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้แทน โดยระบุชื่อเดิมของผู้รับอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจ จึงไม่ทำให้การมอบอำนาจนั้นเสียไป ระหว่างการพิจารณาคดีนี้ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ก็ใช้ชื่อนายจื้อ มาโดยตลอด โดยไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าเป็นการกระทำโดยมีเจตนาไม่สุจริตหรือมีเจตนาที่จะให้จำเลยทั้งสองหลงข้อต่อสู้แต่อย่างใด การที่ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาตามคำร้องลงวันที่ 8 มีนาคม 2555 และคำร้องลงวันที่ 19 เมษายน 2555 โดยใช้ชื่อนายจื้อ ซึ่งตรงกับหนังสือมอบอำนาจ จึงชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาชอบแล้วฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share