คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2426/2516

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญากับโจทก์รับจ้างเหมาขุดขนลูกรังและทรายกองรายทางตามคุณภาพและลักษณะซึ่งกำหนดไว้ในประกาศเรียกประกวดราคาและจำเลยต้องส่งตัวอย่างไปให้โจทก์วินิจฉัยก่อน แต่ตัวอย่างที่จำเลยส่งไปโจทก์วินิจฉัยแล้วแจ้งว่าใช้ไม่ได้ ให้นำทรายหยาบแม่น้ำผสมด้วยแม้ตัวอย่างนั้นจำเลยจะนำไปจากแหล่งที่โจทก์แนะนำในประกาศประกวดราคา ประกาศนั้นก็ระบุไว้แล้วว่าการระบุแหล่งวัตถุเป็นการแนะนำ ผู้รับจ้างจะถือเป็นเหตุเพื่อปัดความรับผิดใด ๆ ของตนไม่ได้ การสืบแสวงหาวัตถุตามสัญญา เป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างที่จะต้องจัดหาตามคุณภาพและลักษณะที่กำหนด เมื่อจำเลยประกวดราคาได้และได้ทำสัญญากับโจทก์ดังนี้แล้ว จำเลยจึงจะอ้างเอาความเข้าใจหรือความเชื่อในลักษณะและคุณสมบัติของวัตถุที่โจทก์แนะนำและข้อแนะนำให้เอาทรายหยาบแม่น้ำผสมว่า ไม่ต้องรับผิดตามสัญญาหาได้ไม่
จำเลยมีหน้าที่ต้องส่งลูกรังและทรายให้มีคุณภาพและลักษณะตามสัญญา แต่จำเลยเอาลูกรังและทรายที่มีลักษณะไม่ถูกต้องส่งไปให้โจทก์วิจัย แม้จำเลยจะได้รับแจ้งผลการวิจัยว่าใช้ไม่ได้ก่อนสิ้นกำหนดสัญญาเพียง 5 วัน เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานวิเคราะห์ของโจทก์ได้กลั่นแกล้งให้ล่าช้าหรือกระทำการโดยไม่สุจริต จำเลยจะอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยว่าทำการขนให้ไม่ทันหาได้ไม่
ข้อสัญญาที่กำหนดให้จำเลยส่งตัวอย่างวัตถุไปให้โจทก์วิจัยก่อนเป็นแต่ข้อหนึ่งในสัญญาที่จำเลยต้องปฏิบัติก่อนส่งลูกรังและทรายให้โจทก์ตามสัญญา มิใช่เงื่อนไขแห่งสัญญา
ข้อสัญญาที่ว่าถ้าปรากฏว่าผู้รับจ้างส่งวัตถุไม่ถูกต้องตามคุณภาพและลักษณะตามสัญญา ผู้รับจ้างจะต้องนำวัตถุที่ถูกต้องมาเปลี่ยนให้จนเป็นการถูกต้อง โดยผู้รับจ้างจะคิดยืดเวลาเอากับผู้ว่าจ้างไม่ได้นั้นเป็นข้อสัญญาที่กำหนดไว้เพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้รับวัตถุตรงตามสัญญาไม่เป็นโมฆะ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญากับโจทก์รับเหมาขุดขนลูกรังและทรายกองรายทาง เพื่อใช้รองพื้นทางสายที่ 21 ในราคา 80,920 บาทจำเลยผิดสัญญาไม่ขนลูกรังและทรายกองรายทาง โจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วและจ้างคนอื่นทำขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายและค่าปรับรายวัน

จำเลยต่อสู้ว่า สัญญาที่ทำไว้มีเงื่อนไขบังคับก่อน โดยจำเลยต้องส่งตัวอย่างลูกรังและทรายไปให้โจทก์วิจัยก่อน เมื่อโจทก์เห็นชอบจึงจะเริ่มขน แต่โจทก์กลับจะให้จำเลยนำทรายหยาบจากแม่น้ำมาผสม นอกเหนือจากประกาศเรียกประกวดราคา สัญญายังไม่เกิดและจำเลยบอกเลิกสัญญาเนื่องจากเหตุสุดวิสัย โจทก์ไม่เสียหาย จำเลยไม่ต้องรับผิด

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 90,440 บาทแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยไม่ทำการขุดและขนลูกรังหรือลูกรังและทรายส่งให้โจทก์ตามสัญญาจ้างเหมาที่จำเลยทำไว้กับโจทก์เลย

จำเลยฎีกาว่าไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายเพราะลูกรังและทรายที่จำเลยส่งให้โจทก์วิจัยได้นำไปจากแหล่งที่โจทก์แนะนำในประกาศเรียกประกวดราคาเอกสาร ล.1 ตามประกาศเรียกประกวดราคาไม่ระบุให้นำทรายหยาบแม่น้ำผสมด้วย ทำให้จำเลยเข้าใจผิดนั้น ปรากฏว่า ประกาศเรียกประกวดราคา เอกสาร ล.1 ข้อ (3) กำหนดคุณภาพและลักษณะตามเปอร์เซนต์ผ่านตระแกรงของลูกรังหรือลูกรังและทรายที่โจทก์ต้องการ และตามประกาศมีข้อความอีกว่า การระบุแหล่งวัตถุเป็นการแนะนำ ผู้รับจ้างจะถือเป็นเหตุเพื่อปัดความรับผิดใด ๆ ของตนไม่ได้ การสืบแสวงหาวัตถุตามสัญญา เป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างที่จะต้องจัดหาตามคุณภาพและลักษณะที่กำหนด เมื่อจำเลยประกวดราคาได้ได้ทำสัญญากับโจทก์ดังนี้แล้ว จำเลยจะอ้างเอาความเข้าใจหรือความเชื่อในลักษณะและคุณสมบัติของวัตถุที่โจทก์แนะนำและข้อแนะนำให้เอาทรายหยาบแม่น้ำผสมว่าไม่ต้องรับผิดตามสัญญาย่อมไม่ได้ ส่วนฎีกาจำเลยว่า โจทก์แจ้งผลการวิจัยล่าช้า เหลือเวลาอีก 5 วัน ก็จะสิ้นกำหนดสัญญาเป็นการสุดวิสัยที่จำเลยจะปฏิบัติงานได้เห็นว่า ตามสัญญาจำเลยมีหน้าที่ต้องส่งลูกรังหรือลูกรังและทรายให้มีคุณภาพและลักษณะตามสัญญาดังกล่าวอยู่แล้ว การที่จำเลยเอาลูกรังหรือลูกรังและทรายที่มีลักษณะไม่ถูกต้องตามสัญญาส่งไปให้กองวิเคราะห์และวิจัย กรมทางหลวงวิจัยเมื่อได้รับแจ้งว่าใช้ไม่ได้ จำเลยจะอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยว่าทำการขนให้ไม่ทันย่อมไม่ได้ทั้งข้อเท็จจริงก็ไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานวิเคราะห์ได้กลั่นแกล้งให้ล่าช้า หรือกระทำการโดยไม่สุจริต

จำเลยฎีกาว่า สัญญาจ้างเหมารายนี้ยังไม่เกิดขึ้น เพราะมีเงื่อนไขให้จำเลยส่งตัวอย่างวัตถุให้โจทก์วิจัยก่อนเห็นว่า โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญารายนี้กันไว้ว่า จำเลยต้องส่งตัวอย่างวัตถุให้โจทก์วิจัยก่อน เป็นแต่ข้อหนึ่งในสัญญาที่จำเลยต้องปฏิบัติก่อนส่งลูกรังหรือลูกรังและทรายให้โจทก์ตามสัญญา มิใช่เงื่อนไขดังจำเลยฎีกาว่าสัญญายังไม่เกิดขึ้น

จำเลยฎีกาว่า สัญญาข้อ 3 วรรคท้ายของรายละเอียดต่อท้ายสัญญาที่ อ.ด. 29/2508 เป็นการเอาเปรียบและเป็นโมฆะ เนื่องจากสัญญาดังกล่าวไม่สามารถเป็นไปได้ ข้อความในสัญญาที่จำเลยฎีกานี้เป็นสัญญาอีกข้อหนึ่งมีว่า ถ้าปรากฏว่าผู้รับจ้างส่งวัตถุไม่ถูกต้องตามคุณภาพและลักษณะตามสัญญา ผู้รับจ้างจะต้องนำวัตถุที่ถูกต้องมาเปลี่ยนให้จนเป็นการถูกต้อง โดยผู้รับจ้างจะคิดยึดเวลาเอากับผู้ว่าจ้างไม่ได้ เห็นว่า ข้อความในสัญญาข้อนี้ไม่เป็นโมฆะ หากเป็นข้อสัญญาที่กำหนดไว้เพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้รับวัตถุตรงตามสัญญาที่กำหนดกันไว้เท่านั้น ไม่เป็นการเอาเปรียบ หรือเป็นไปไม่ได้

พิพากษายืน

Share