คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2839/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังมิได้ออกรางวัลให้แก่ผู้มีชื่อครึ่งฉบับในราคา 5 บาท 50 สตางค์ เกินกว่าราคาที่กำหนดในสลากครึ่งฉบับ 50 สตางค์ เช่นนี้เงินทั้งจำนวน 5 บาท 50 สตางค์ย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด มิใช่เฉพาะเงินจำนวนส่วนที่เกิน 50 สตางค์ ศาลมีอำนาจริบเงิน 5 บาท 50 สตางค์ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยการกระทำความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยบังอาจขายสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งยังมิได้ออกรางวัลให้แก่ผู้มีชื่อจำนวนครึ่งฉบับ ราคา 5 บาท 50 สตางค์ เกินกว่าราคาที่กำหนดในสลากครึ่งฉบับ 50 สตางค์ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเจ้าพนักงานจับจำเลยและยึดธนบัตรฉบับละ 10 บาทซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดจากจำเลยกับสลากกินแบ่งที่จำเลยขายให้ผู้มีชื่อเป็นของกลาง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 9 ทวิ, 9 ตรี, 10 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2505 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(2) ปรับจำเลย 200 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง ปรับ 100 บาท ริบเงินส่วนที่ขายเกินราคา 50 สตางค์นอกนั้นคืนเจ้าของ

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบเงิน 5 บาท 50 สตางค์ ที่จำเลยขายสลากกินแบ่งเกินราคาได้ทั้งหมด

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาขอให้ริบเงิน 5 บาท 50 สตางค์ ที่จำเลยขายสลากกินแบ่งเกินราคาได้ทั้งหมด

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เงินจำนวน 5 บาท 50 สตางค์ ของกลางเป็นทรัพย์ซึ่งจำเลยได้มาโดยการกระทำความผิดฐานขายสลากกินแบ่งเกินราคาตามฟ้องโจทก์ เงินทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิดคดีนี้ขึ้น มิใช่เฉพาะเงินจำนวนส่วนที่เกิน 50 สตางค์เท่านั้น กรณีเข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(2) ศาลจึงมีอำนาจริบเงินทั้งหมดที่จำเลยได้มา

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบเงินจำนวน 5 บาท 50 สตางค์ของกลางนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share