คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่านายหน้าจำนวน 35,000 บาท และเงินค่าขายที่ดินส่วนที่เกินอีก 50,000 บาท รวมเป็นเงิน 85,000 บาทจากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดทั้งสองรายการ ต่อมาในวันชี้สองสถานโจทก์จำเลยต่างแถลงรับกันว่า โจทก์ได้รับเงินค่านายหน้าจำนวน 35,000 บาท ไปจากจำเลยแล้ว คงโต้เถียงกันเพียงว่า จำเลยตกลงให้ราคาที่ดินส่วนที่เกิน 50,000 บาท เป็นของโจทก์นอกเหนือไปจากค่านายหน้า 35,000 บาท ด้วยหรือไม่ คดีดังกล่าวจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา248 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2524)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินในราคา700,000 บาท โดยตกลงให้ค่านายหน้าร้อยละ 5 ของราคาขาย แต่ถ้าโจทก์สามารถขายได้เกินราคานี้ส่วนที่เกินให้เป็นของโจทก์ โจทก์ติดต่อขายที่ดินดังกล่าวได้ในราคา 750,000 บาท โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่านายหน้าร้อยละ 5 ของราคาที่ดิน 700,000 บาท เป็นเงิน 35,000บาทกับส่วนเกินของราคาที่ดินที่โจทก์ขายได้เพิ่มอีก 50,000 บาทรวมเป็นส่วนได้ของโจทก์ 85,000 บาท แต่จำเลยไม่ยอมชำระ ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงิน 85,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องให้โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกเงินค่านายหน้าและเงินส่วนเกินของราคาที่ดินขอให้ยกฟ้อง

ในวันชี้สองสถานคู่ความแถลงรับกันว่าโจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินให้จำเลยจริง โจทก์ได้รับค่านายหน้าจากจำเลยแล้ว35,000 บาท คงมีปัญหาวินิจฉัยแต่เพียงว่าจำเลยตกลงให้ราคาที่ดินที่โจทก์ขายได้เกิน 700,000 บาทเป็นของโจทก์หรือไม่

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยไม่ได้ตกลงพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินค่านายหน้าจำนวน 35,000 บาท และเงินค่าขายที่ดินส่วนที่เกิน 700,000 บาท อีก50,000 บาทรวมเป็นเงิน 85,000 บาท จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดทั้งสองรายการ แต่ครั้นศาลชั้นต้นชี้สองสถาน โจทก์จำเลยต่างแถลงรับกันว่าโจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินให้จำเลยจริง และโจทก์ได้รับเงินค่านายหน้าจำนวน 35,000 บาทไปจากจำเลยเรียบร้อยแล้ว คงโต้เถียงกันเพียงว่าจำเลยตกลงให้ราคาที่ดินส่วนที่เกิน 700,000 บาท จำนวน50,000 บาทเป็นของโจทก์ นอกเหนือไปจากค่านายหน้า 35,000 บาทด้วยหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่ได้ตกลงให้ราคาที่ดินส่วนที่เกิน 700,000 บาทเป็นของโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกาว่า พยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยตกลงให้ราคาที่ดินส่วนที่เกิน 700,000 บาทเป็นของโจทก์ ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีมีปัญหาวินิจฉัยว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 6 หรือไม่ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาทเป็นฎีกาต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงไม่รับฎีกาโจทก์ไว้วินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาโจทก์ คืนค่าธรรมเนียมชั้นฎีกาทั้งหมดให้โจทก์

Share