แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ตามข้อ 46 ของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน แก้ไขฉบับที่ 2 และฉบับที่ 6 นายจ้างมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ค่าชดเชยให้ลูกจ้างทันที โดยลูกจ้างไม่ต้องทวงถาม เมื่อนายจ้างไม่ชำระย่อมตกเป็นฝ่ายผิดนัด และลูกจ้างเสียหายอยู่ในตัว แม้กฎหมายว่าด้วยแรงงานมิได้บัญญัติถึงเรื่องดอกเบี้ยไว้ก็นำหลักทั่วไปในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 224 ที่ให้ลูกหนี้รับผิดเสียดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัดมาบังคับได้
ตามคำฟ้องมิได้มีคำขอบังคับให้จำเลยรับผิดใช้ดอกเบี้ยไว้ ทั้งคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางก็มิได้อ้างเหตุผลความเป็นธรรมตามที่เห็นควรประการใด การที่พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าดอกเบี้ยในค่าชดเชยด้วยจึงเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง ไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ พ.ศ. 2522มาตรา 52
ย่อยาว
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ทุกสำนวนพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินค่าชดเชยของโจทก์แต่ละสำนวนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาประการสุดท้ายเกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ยในค่าชดเชยที่จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเพราะโจทก์ไม่เสียหายและไม่ได้ทวงถาม ทั้งกฎหมายว่าด้วยแรงงานไม่มีบทบัญญัติเรื่องดอกเบี้ยไว้ หากโจทก์มีสิทธิเรียกได้ก็นับแต่วันศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ไม่ใช่นับแต่วันเลิกจ้างนั้น เห็นว่าตามข้อ 46ของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2517 ข้อ 1 และ (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 31กรกฎาคม 2521 ข้อ 2 จำเลยผู้เป็นนายจ้างมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ค่าชดเชยให้แก่โจทก์ผู้เป็นลูกจ้างในวันที่เลิกจ้างทันทีโดยโจทก์ไม่ต้องทวงถาม เมื่อจำเลยไม่ชำระย่อมตกเป็นฝ่ายผิดนัดและโจทก์เสียหายอยู่ในตัวหนี้ค่าชดเชยเป็นหนี้เงิน แม้กฎหมายว่าด้วยแรงงานจะมิได้บัญญัติถึงเรื่องดอกเบี้ยไว้ ก็นำหลักทั่วไปในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ที่ให้ลูกหนี้รับผิดเสียดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัดมาบังคับได้
คำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางที่ให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์สำนวนแรกพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันเลิกจ้างศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย แต่ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาเลยไปถึงให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยในค่าชดเชยแก่โจทก์สำนวนที่สองและที่สามด้วยนั้น เห็นว่าตามคำฟ้องของโจทก์ทั้งสองสำนวนนี้มิได้มีคำขอบังคับให้จำเลยรับผิดใช้ค่าดอกเบี้ยไว้ ทั้งคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางก็มิได้อ้างเหตุผลความเป็นธรรมตามที่เห็นควรประการใด ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าดอกเบี้ยในค่าชดเชยแก่โจทก์ทั้งสองสำนวนหลัง จึงเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง ไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 52ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยในส่วนนี้
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยในค่าชดเชยแก่โจทก์สำนวนที่สองและที่สาม นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง”