คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2389/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่ผู้ร้องจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้จะต้องเป็นเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัดแต่คดีนี้เมื่อผู้ร้องไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ร้องทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาจึงให้ถือว่าผู้ร้องไม่ติดใจจะสืบพยานและนัดสืบพยานผู้คัดค้านต่อมามีคำสั่งให้ผู้ร้องแพ้คดีเห็นได้ว่าศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งแสดงให้ว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาจึงไม่ใช่การพิจารณาโดยขาดนัดผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้(จำเลย) เด็ดขาด และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย ผู้คัดค้านเข้าจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้และดำเนินการให้ผู้ร้องชำระเงินจำนวน 306,650 บาท ซึ่งลูกหนี้มีสิทธิเรียกร้องในฐานะเจ้าหนี้ของผู้ร้อง ผู้ร้องปฏิเสธหนี้จำนวนเงินดังกล่าว ผู้คัดค้านสอบสวนแล้วเห็นว่า ผู้ร้องเป็นหนี้ลูกหนี้จริง จึงมีหนังสือยืนยันหนี้ไปยังผู้ร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ลงวันที่ 10 มีนาคม 2535ว่า หนี้จำนวนดังกล่าวเป็นหนี้เกี่ยวกับสัญญาขายลดตั๋วเงินผู้คัดค้านจึงมีหนังสือแจ้งยืนยันหนี้ต่อผู้ร้องเมื่อหนี้ดังกล่าวขาดอายุความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 แล้วขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องพ้นความรับผิดตามจำนวนหนี้ซึ่งผู้คัดค้านมีหนังสือยืนยัน
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นหนี้ลูกหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วเงินฉบับลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2524 จำนวน306,650 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 21 ต่อปี หนี้ดังกล่าวยังไม่ขาดอายุความ ผู้ร้องไม่ยอมไปพบผู้คัดค้านเพื่อทำการสอบสวนประกอบคำปฏิเสธหนี้ โดยมีเจตนาประวิงเพื่ออ้างเหตุต่อสู้ว่าหนี้ขาดอายุความ ขอให้ยกคำร้องและให้ผู้ร้องชำระหนี้จำนวน306,650 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 21 ต่อปี ในต้นเงินตามเช็คแต่ละฉบับ นับแต่วันที่ธนาคารตามเช็คแต่ละฉบับปฏิเสธการจ่ายเงิน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องชำระหนี้จำนวน 306,650 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 21 ต่อปี ในต้นเงินตามเช็คแต่ละฉบับนับแต่วันที่ธนาคารตามเช็คแต่ละฉบับปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่ผู้คัดค้าน
ผู้ร้องยื่นคำร้องลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2536 ต่อศาลชั้นต้นว่า ในการไต่สวนคำร้องของ ผู้ร้องฉบับลงวันที่ 10 มีนาคม 2535ทนายความของผู้ร้องไม่มาศาลในวันนัดไต่สวน โดยผู้ร้องไม่ทราบและผู้ร้องก็ไม่ทราบนัด ทั้งมิได้รับแจ้งเหตุขัดข้องจากทนายความผู้ร้องมิได้จงใจที่จะไม่มาศาลในวันนัดไต่สวน จึงขอให้ศาลชั้นต้นและมีคำสั่งว่าผู้ร้องมิได้จงใจไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนคำร้องดังกล่าว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้ร้องฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษากลับคำสั่งและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ และมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องปฏิเสธหนี้ของผู้ร้องใหม่นั้น เห็นว่ากรณีที่ผู้ร้องจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้จะต้องเป็นเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัด แต่คดีนี้เมื่อผู้ร้อง ไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องทราบนัดโดยชอบไม่มา จึงให้ถือว่าผู้ร้องไม่ติดใจจะสืบพยาน และนัดสืบพยานผู้คัดค้าน ต่อมามีคำสั่งให้ผู้ร้องแพ้คดีเห็นได้ว่าศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งแสดงว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณา จึงไม่ใช่การพิจารณาโดยขาดนัด ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่
พิพากษายืน

Share