คำสั่งคำร้องที่ 1461-1462/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา แต่เนื่องจากโจทก์ที่ 2 ได้ถึงแก่กรรมแล้วในวันที่ 21 สิงหาคม 2537 ปรากฏตามสำเนาใบมรณบัตรท้ายคำร้องโดยทายาทหรือผู้จัดการทรัพย์มรดกหรือบุคคลที่ปกครอง และครอบครองทรัพย์มรดกยังมิได้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ที่ 2 ผู้มรณะ ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีสิทธิที่จะขอเข้ามาเป็น คู่ความแทนที่โจทก์ที่ 2 ได้ภายใน 1 ปี โจทก์ที่ 1จึงขอกราบเรียนต่อศาลขอได้โปรดเลื่อนการอ่านคำพิพากษา คดีนี้ไปอีก 1 ปี นับจากวันที่โจทก์ที่ 2 ถึงแก่กรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 โปรดอนุญาต หมายเหตุ จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว ส่วนจำเลยที่ 2 ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง คดีทั้งสองสำนวนนี้ จำเลยทั้งหกเป็นบุคคลเดียวกันศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยให้เรียกนายสมศรีกุลศรีนอ โจทก์สำนวนแรกว่า โจทก์ที่ 1 และนายวรจักร พลนาคู โจทก์สำนวนหลังว่า โจทก์ที่ 2 โจทก์ทั้งสองฟ้องมีใจความทำนองเดียวกันว่า จำเลยทั้งหก โต้แย้งสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ทั้งสองว่าเป็น ที่ดินสาธารณประโยชน์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 3220 ตำบลนาคู อำเภอกุฉินารายณ์ (อำเภอเขาวง) จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นของโจทก์ที่ 1 และที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 483 ตำบลนาคู อำเภอกุฉินารายณ์ (อำเภอเขาวง) จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นของโจทก์ที่ 2 ระหว่างการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้อง โจทก์ทั้งสองทิ้งฟ้องจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ทั้งสอง ทิ้งฟ้องจำเลยที่ 1 ให้จำหน่ายคดีโจทก์ทั้งสองเฉพาะจำเลยที่ 1ออกเสียจากสารบบความ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน โจทก์ทั้งสองฎีกา (อันดับ 67,75) ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จแล้วส่งไปศาลชั้นต้น เพื่ออ่านศาลชั้นต้นหมายนัดคู่ความมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา เจ้าหน้าที่รายงานว่าส่งหมายนัดให้โจทก์ที่ 2 ไม่ได้เพราะโจทก์ที่ 2 ถึงแก่กรรมแล้ว (อันดับ 95,96,100) ในวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โจทก์ที่ 1 ยื่นคำร้องนี้และแถลงต่อศาลว่า อยู่ระหว่างจัดให้มีคู่ความแทนที่โจทก์ที่ 2 ผู้มรณะ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ไปก่อน และนัดพร้อมสอบถามคู่ความ ถึงวันนัดศาลชั้นต้นให้หมายเรียกนางวอน พลนาคู ภริยาของโจทก์ที่ 2 นางชื่นสุขพลนาคูและนายไตรภพ พลนาคู บุตรของโจทก์ที่ 2มาสอบถาม บุคคลดังกล่าวยินยอมรับเข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 2 ผู้มรณะ แต่ไม่ยอมลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาศาลชั้นต้นจึงบันทึกรายงานต่อถึงเหตุที่ไม่ยอมลงชื่อ แล้วมีคำสั่งให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนและซองคำพิพากษา ศาลฎีกาเสนอศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งต่อไป (อันดับ 116,122,123,124,125)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาตามคำร้องแล้ว แต่เมื่อทางไต่สวนฟังได้ว่า โจทก์ที่ 2 ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2537 กรณีไม่ชัดแจ้งว่า นางวอนพลนาคูนางชื่นสุข พลนาคู และนายไตรภพ พลนาคู ทายาทของโจทก์ที่ 2 ประสงค์จะขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 2 ผู้มรณะหรือไม่ ทั้งโจทก์ที่ 1และฝ่ายจำเลยก็มิได้มีคำขอให้หมายเรียกบุคคลดังกล่าวเข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 2 จึงให้ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 ว่าด้วยการเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ที่ 2 ผู้มรณะต่อไป เสร็จแล้วให้ส่งสำนวนและคำพิพากษาคืนศาลฎีกา

Share