คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ฉะนั้น สถานที่ตั้งของธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินจึงเป็นสถานที่ความผิดเกิดขึ้น ส่วนธนาคารที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีเพื่อให้เรียกเก็บเงินตามเช็คนั้น มิใช่ธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โดยเป็นแต่เพียงตัวแทนโจทก์ไปเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้นเท่านั้น ดังนี้ เมื่อธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ส่วนธนาคารที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ความผิดคดีนี้จึงมิได้เกิดขึ้นในเขตศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลจังหวัดเชียงใหม่จึงไม่มีอำนาจที่จะรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 ได้บัญญัติไว้แล้วว่าคดีเช่นใดจะชำระได้ที่ศาลใด จึงจะใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 มาใช้บังคับหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ออกเช็คเลขที่ เอช.โอ.ญ.215678 ลงวันที่ 17 มกราคม 2516 ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สำนักงานใหญ่ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 550 ถนนเพลินจิตร ตำบลสวนลุมพินี อำเภอปทุมวันจังหวัดกรุงเทพมหานคร สั่งจ่ายเงิน 14,000 บาท ให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ ต่อมาโจทก์ได้นำเช็คฉบับดังกล่าวไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 69-72 ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คเข้าบัญชีของโจทก์ สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานครปฏิเสธการจ่ายเงิน ทั้งนี้โดยจำเลยออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้ได้ในขณะออกเช็ค และด้วยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า ศาลจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีอำนาจรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ประเด็นข้ออื่นไม่จำต้องวินิจฉัย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามทางไต่สวนมูลฟ้องของโจทก์ประกอบกับคำฟ้อง ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในตำบลสามเสนในอำเภอพญาไท กรุงเทพมหานคร จำเลยออกเช็คตามฟ้อง ณ ภูมิลำเนาของจำเลย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สำนักงานใหญ่ซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คที่จำเลยออกให้แก่โจทก์อยู่ที่ตำบลสวนลุมพินี อำเภอปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ดังนี้ เห็นได้ว่าภูมิลำเนาของจำเลยก็ดี สถานที่ที่จำเลยออกเช็คก็ดี และสถานที่ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คก็ดี มิได้อยู่ที่ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 เกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ฉะนั้น สถานที่ตั้งของธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงเป็นสถานที่ความผิดเกิดขึ้น คดีนี้ธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน อยู่ที่ตำบลสวนลุมพินี อำเภอปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ส่วนสถานที่ที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้นคือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ใช่ธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โดยเป็นแต่เพียงตัวแทนโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คเท่านั้น สถานที่ตั้งธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาเชียงใหม่ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ จึงมิใช่สถานที่ซึ่งความผิดในคดีนี้เกิดขึ้น จำเลยมิได้กระทำการใด อันเป็นความผิดคดีนี้ในเขตศาลจังหวัดเชียงใหม่เลย และไม่มีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 ที่แสดงว่าคดีนี้จะชำระที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้ ศาลจังหวัดเชียงใหม่จึงไม่มีอำนาจที่จะรับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา ส่วนที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีนี้ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญา เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติไว้ในมาตรา 22 แล้วว่า คดีเช่นใดจะชำระได้ที่ศาลใด จึงจะใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 มาใช้บังคับหาได้ไม่ เมื่อคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีนี้ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวแล้ว คำสั่งเช่นนั้นจึงไม่มีผลตามกฎหมายให้ศาลจำต้องดำเนินการต่อไป ที่โจทก์ฎีกาว่า เมื่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำสั่งไปเป็นการผิดพลาด ศาลจังหวัดเชียงใหม่ชอบที่จะสั่งแก้ไขข้อผิดพลาดตามมาตรา 143 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ประกอบด้วยมาตรา 15 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อผิดหลงเล็กน้อย

พิพากษายืน

Share