คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2388/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาซื้อขายข้อ 7 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาโดยไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบไม่ครบจำนวนและผู้ซื้อได้บอกเลิกสัญญาแก่ผู้ขาย ส่วนข้อ 8 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแก่ผู้ขาย ยังคงยอมให้ผู้ขายนำสิ่งของที่ซื้อขายส่งให้แก่ผู้ซื้อต่อไป ผู้ซื้อจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากผู้ขายเป็นรายวันได้ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเนื่องจากจำเลยส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ ถูกต้อง โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับตามสัญญาข้อ 7 เท่านั้น ไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 8

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาขายกระโจมผ้าใบพร้อมอุปกรณ์จำนวน 11,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,629,000 บาทให้แก่โจทก์ เมื่อจำเลยส่งมอบสิ่งของให้แก่โจทก์ คณะกรรมการตรวจรับของมีความเห็นว่าไม่สมควรรับของไว้เพราะจำเลยส่งมอบไม่ตรงตามสัญญา โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยแก้ไข จำเลยได้แก้ไขแล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกต้องตามสัญญา โจทก์เห็นว่าจำเลยไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ จึงบอกเลิกสัญญาซื้อขายและริบเงินประกันตามสัญญา นอกจากนี้โจทก์ยังมีสิทธิเรียกค่าปรับจากจำเลยในอัตราร้อยละ 0.2 ต่อวันจากต้นเงิน 2,629,000 บาท รวมเป็นเงิน 999,020 บาท จึงขอให้บังคับจำเลยร่วมกันใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยส่งมอบสิ่งของตามสัญญาให้แก่โจทก์ภายในกำหนดแล้ว โจทก์ละเลยไม่ตรวจรับมอบ ทำให้การตรวจรับล่าช้าหลังจากส่งมอบถึง 6 เดือนเศษ โจทก์บอกเลิกสัญญาและริบเงินประกันเป็นการไม่ถูกต้อง ส่วนค่าปรับที่โจทก์เรียกร้องตามฟ้องนั้น เมื่อโจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาตามข้อ 7 แล้ว โจทก์จะเรียกเบี้ยปรับตามสัญญาข้อ 8 อีกไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเบี้ยปรับแก่โจทก์เป็นเงิน 304,964 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย

โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเบี้ยปรับแก่โจทก์เป็นเงิน 122,663.80 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย

โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ปัญหาวินิจฉัยต่อไปมีว่าโจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากจำเลยเป็นรายวันตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ ข้อสัญญาที่เกี่ยวกับการเรียกร้องเบี้ยปรับมีดังนี้

ข้อ 7. เมื่อครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญานี้แล้ว ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบสิ่งของไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้

ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกัน หรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือรับรองตามข้อ 6เป็นจำนวนเงินทั้งหมด หรือแต่บางส่วนก็ได้ แล้วแต่ผู้ซื้อจะเห็นสมควร และถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่งแล้วแต่กรณี ภายในกำหนด 6 เดือน นับแต่วันที่บอกเลิกสัญญาผู้ขายต้องยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ด้วย

ข้อ 8. ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 7 ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละศูนย์จุดสอง (0.2) ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ นับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนถูกฟ้องครบถ้วน ฯลฯ

ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาข้อ 7 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาโดยไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบสิ่งของไม่ครบจำนวน และผู้ซื้อได้บอกเลิกสัญญาต่อผู้ขายส่วนข้อ 8 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาต่อผู้ขาย ยังคงยอมให้ผู้ขายนำสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญาส่งให้แก่ผู้ซื้อต่อไป ผู้ซื้อจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากผู้ขายเป็นรายวันได้นับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนกว่าผู้ขายได้นำสิ่งขอมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วน กรณีนี้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเนื่องจากจำเลยส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องโจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับตามสัญญาข้อ 7 เท่านั้น ไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 8

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share