คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ใดตัดฟันไม้ประเภทหวงห้ามในที่ดินซึ่งตนครอบครองมาช้านานแม้จะมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานก็ดี ก็ไม่มีความผิด คำว่า ” ป่า ” ตาม พ.ร.บ.รักษาป่าหมายถึงที่ดินที่มีสภาพเป็นป่า ที่ดินใดแม้จะยังมิได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ออกโฉนดให้แก่ผู้ใดก็ดี เมื่อที่ดินนั้นเป็นที่ไร่สวนมีผู้ครอบครองยึดถือตลอดมาเช่นนี้ หาเป็นที่ป่าตามความใน พ.ร.บ.นั้นไม่

ย่อยาว

จำเลยตัดต้นยางในไร่ของจำเลยซึ่งลุงจำเลยปกครองมาแล้ว ๑๐ ปี จึงให้จำเลยปกครองต่อมาอีก ๑๐ ปี ที่รายนี้ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่อย่างใด โจทก์ฟ้องหาว่าตัดไม้ประเภทหวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต
ศาลฎีกาตัดสินว่าคดีนี้โจทก์เองรับว่าจำเลยตัดไม้ในไร่ของจำเลย เมื่อเช่นนี้ต้องถือว่าทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยตัดฟันไม้หวงห้ามดังฟ้อง ที่ว่าที่ไร่สวนของจำเลยไม่มีโฉนดต้องถือว่าเป็นป่านั้น คำว่า ” ป่า ” ตาม พ.ร.บ.รักษาป่า ม.๓ ข้อ ๒ นั้น หมายถึงที่ดินที่มีสภาพเป็นป่า ส่วนที่ไร่สวนซึ่งจำเลยถือกรรมสิทธิครอบครองมาตามสภาพไม่ใช่ป่า ฉะนั้นโจทก์จะยกบทวิเคราะห์ศัพท์ตามมาตรานั้นมาใช้อธิบายถึงที่รายนี้ซึ่งตามสภาพไม่ใช่ป่าหาได้ไม่ เมื่อวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้ตัดฟันไม้ในป่าแล้ว จำเลยก็ไม่มีความผิดจึงพิพากษายืนตามศาลล่างทั้ง ๒ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share