คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับ+ที่ การซื้อขายทำเป็นสัญญา+กรมธรรม์ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย+ตัวการ ตัวแทน ++ที่ดินรายพิพาทเป็นของมารดาๆ ยอมให้บุตร์ทำการออกหน้าแสดงว่าเป็นเจ้าของที่ดินรายพิพาทแล้วเอาไปขายฝากไว้ต่อบุคคลภายนอกดังนี้ ผู้ซื้อได้ที่เป็นสิทธิตามประมวลแพ่งฯ ม.806
ประเด็นหาได้เกิดมีขึ้นฉะเพาะเนื่องมาแต่คำฟ้องอย่างเดียวไม่ แม้แต่ลำพังตัวคำให้การเองก็อาจทำให้เกิดประเด็นขึ้นได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ซึ่งอ้างว่า ได้ซื้อมาจากบุตร์จำเลย จำเลยให้การว่าที่นาเป็นของตนได้ให้บุตร์เช่าทำ บุตร์จะเอาไปขายให้โจทก์เท่าาใดเมื่อใดไม่ทราบดังนี้ทำให้เกิดประเด็นขึ้นข้อหนี่งว่าบุตร์ให้เอาที่ราย+พิพาทนี้ไปขายฝากไว้+โจทก์ โดยจำเลยรู้เห็นยินยอมด้วยหรือไม่

ย่อยาว

เดิมโจทก์ฟ้องนายและนายเกี๊ยะเป็นจำเลยหาว่าบุกรุกที่นา ซึ่งฉ.ได้ขายฝากให้ไว้แก่โจทก์ จึงฟ้องขอให้ขับไล่นายเละ นายเกี๋ยะให้การว่าที่นาเป็นของนางง๊อกจำเลย โจทก์จึงเป็นคำร้องขอให้เรียกนางง๊อกมาเป็นจำเลยร่วมด้วย
นางง๊อกให้การว่าที่นารายพิพาทนั้นเป็นของตน ได้ให้นายเละ นายเกี๊ยะและ ฉ. ซึ่งเป็นบุตร์เช่าไปทำ ฉ. จะได้นำไปขายให้โจทก์อย่างใด เมื่อใดไม่ทราบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๓๕ บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินว่าปัญหาข้อแรกมีอยู่ว่า การที่นางง๊อกจำเลยได้รู้เห็นยินยอมในการทำสัญญาขายฝากระหว่าง ฉ.กับโจทก์หรือว่าเชิด ฉ. ทำให้โจทก์เข้าใจผิดเป็นเรื่องนอกประเด็นหรือไม่ เห็นว่าตามฟ้องโจทก์และคำให้การของนางง๊อกจำเลยทำให้เกิดประเด็นดังกล่าวแล้วข้างต้น ไม่เป็นการนอกประเด็ดอย่างใด และเห็นว่าการที่จะเกิดประเด็นขึ้นหาได้เนื่องมาจากคำฟ้องอย่างเดียวไม่ แม้แต่ตัวคำให้การเองก็อาจทำให้เกิดประเด็นได้ สำหรับข้อเท็จจริงคงฟังว่าที่พิพาทรายนี้เป็นของนางง๊อกๆ ได้รู้เห็นยินยอมให้ ฉ.ทำการขายฝากที่ดินรายนี้ให้โจทก์ ซึ่งตามพฤติการณ์ต่างๆ แสดงให้เห็นว่า ฉ.เป็นตัวแทนของนางง๊อกโดยปริยาย หากเข้าลักษณะตัวการไม่เปิดเผยชื่อตามประมวลแพ่งฯ ม.๘๐๖ โดยที่นางง๊อกเจ้าของที่ดินเป็นตัวการยอมให้ ฉ.ผู้เป็นตัวแทนทำการออกหน้าเป็นตัวการดังนี้ นางง๊อกหาอาจทำให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกอันมีอยู่ต่อ ฉ. ผู้เป็นตัวแทนและได้มาก่อนที่รู้ว่า ฉ. เป็นตัวแทนนั้นไม่ ทั้งที่ดินรายนี้ไม่ปรากฎว่ามีหนังสือสำคัญสำหรับที่การขายฝากทำเป็นกรมธรรม์ถูกต้องแล้ว โจทก์จึงได้ที่เป็นสิทธินับแต่วันขายฝากเป็นต้นไป
ส่วนข้อที่จำเลยเถียงว่าไม่ใช่เป็นการขายฝากเพราะพฤติการณ์เป็นจำนองนั้นเห็นว่าตามสัญญาก็ปรากฎชัดว่าขายฝาก และภายหลักขายฝากแล้ว ฉ.ก็ทำสัญญาเช่าที่รายนี้จากโจทก์ จึงไม่ใช่เรื่องจำนองดังจำเลยต่อสู้ ส่วนข้อที่ว่าทรัพย์รายนี้เป็นสินบริคณห์ระหว่างนางง๊อกกับสามีๆ ไม่รู้เห็นยินยอมด้วยในการที่นางง๊อกยินยอมให้ ฉ.ขายฝากนั้นเป็นเรื่องนอกประเด็น จึงไม่จำต้องวินิจฉัยถึง เห็นว่าศาลชั้นต้นพิพากษามาถูกต้องแล้ว จึงกลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นทุกประการ

Share