คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2640/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาว่าจำเลยแต่ฝ่ายเดียวจะถอนคำท้าที่ให้ส่งสัญญากู้ไปตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อผู้กู้โดยโจทก์ไม่ยินยอมได้หรือไม่นั้น จำเลยเคยยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 มาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้วินิจฉัยว่า คำท้าดังกล่าวเป็นการที่คู่ความสละประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นทำการชี้สองสถานไว้โดยยึดเอาผลตามคำท้าเป็นข้อยุติ จำเลยหาอาจยกเลิกคำท้าแต่ฝ่ายเดียวได้ไม่ แต่เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ดำเนินกระบวนพิจารณาตามคำท้าแล้ว ศาลชั้นต้นจะต้องพพากษาไปตามข้อตกลงนั้นให้ตรงตามคำท้าทุกประการ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จำเลยมิได้ฎีกาโต้แย้ง ปัญหาดังกล่าวจึงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่แล้ว จำเลยอุทธรณ์โต้แย้งในปัญหาดังกล่าวอีก จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา 144 แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวให้อีกก็เป็นการไม่ชอบศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
การพิพากษาให้ตรงตามคำท้าตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1นั้น หมายถึงการที่จะต้องส่งสัญญากู้ไปตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อผู้กู้ว่าเป็นลายมือชื่อคนเดียวกับลายมือชื่อของจำเลยหรือไม่ แล้วพิพากษาไปตามคำท้าอันมีผลเป็นการสละประเด็นข้อพิพาทอื่นด้วย เมื่อศาลชั้นต้นได้ส่งเอกสารที่มีลายมือชื่อของจำเลยไปตรวจพิสูจน์ตามคำท้าและพิพากษาใหม่แล้ว จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาตรงตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 แล้ว

Share