คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 238/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คเงินชำระหนี้ค่าไม้ที่ซื้อจากร้านของ ฮ. ให้แก่ บ. ผู้จัดการร้าน บ. มอบเช็คให้ ฮ. ซึ่งเป็นผู้นำไปขึ้นเงินธนาคารเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ต้องถือว่า ฮ.เป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีกับจำเลย ในข้อหาตามพระราชบัญญัติเช็คฯ ฉะนั้นการที่ บ. กลับนำเช็คพิพาทนี้ไปร้องทุกข์ในฐานะผู้เสียหายเอง การร้องทุกข์ย่อมไม่ชอบ อันมีผลให้พนักงานอัยการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องลงโทษจำเลยในข้อหานี้ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ออกเช็คธนาคารไทยทนุ จำกัด สั่งจ่ายเงินสด ๗,๙๘๔ บาทมอบให้นายบักคุน แซ่ลิ้ม เป็นการชำระหนี้ค่าซื้อไม้ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยเหตุเงินมีไม่พอจ่าย และลายเซ็นในเช็คไม่ใช่ลายเซ็นของเจ้าของบัญชีเงินฝาก ทั้งนี้ โดยจำเลยมีเจตนาไม่ใช้เงินตามเช็ค นายบักคุนผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยออกเช็คเป็นประกันหนี้ค่าไม้ที่ยังค้างชำระ คดีลงโทษจำเลยไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นายบักคุนมิใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน พิพากษายืน โดยเห็นพ้องกับผลแห่งคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยในปัญหา นายบักคุนเป็นผู้เสียหายหรือไม่ว่า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยออกเช็คเพื่อชำระราคาไม้ที่ซื้อจากร้านง่วนยู่ฮวดให้แก่นายบักคุนซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน การที่นายบักคุนได้มอบเช็คพิพาทให้แก่นายฮวด ก็เท่ากับตัวแทนมอบให้แก่ตัวการผู้เป็นเจ้าของไป นายฮวดจึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทและเป็นผู้เสียหาย การที่นายบักคุนไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับจำเลยในฐานะผู้เสียหายเอง การร้องทุกข์ย่อมไม่ชอบเพราะนายบักคุนไม่มีอำนาจร้องทุกข์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
พิพากษายืน

Share