แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้รับความเสียหายจากรถยนต์ของ ส.ชนโดยประมาท ส.ได้เอาประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุกับบริษัทจำเลยเพื่อให้รับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก เช่นนี้แม้โจทก์จะได้ฟ้องผู้เอาประกันภัยไว้อีกคดีหนึ่งและคดีนั้นยังไม่ถึงที่สุด โจทก์ก็ชอบที่จะยื่นฟ้องจำเลยให้รับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887 ว่าด้วยประกันภัยค้ำจุนได้ ความรับผิดของจำเลยเกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยและมีลักษณะเป็นการประกันวินาศภัยตามที่บัญญัติไว้ ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะ 20 หมวด 2 การฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายจึงต้องถืออายุความ 2 ปี นับแต่วันเกิดวินาศภัยตามมาตรา 882 วรรคแรก โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะเกิดวินาศภัยรถยนต์ชนกัน เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2517 และได้ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2519 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับความเสียหายจากการที่รถยนต์ของนายสง่าชนรถยนต์ฝ่ายโจทก์โดยประมาท โจทก์ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายสง่า คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล แต่ระหว่างเกิดเหตุ นายสง่าได้เอารถยนต์คันที่ชนรถฝ่ายโจทก์ประกันภัยไว้กับจำเลยเพื่อให้รับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหาย ๑๐๐,๐๐๐ บาท ตามกรมธรรม์ให้ประกันภัย
จำเลยให้การว่า โจทก์ฟ้องผิดศาล และการที่โจทก์ฟ้องนายสง่าแล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ คดีขาดอายุความ นายสง่า ผู้เอาประกันภัยประพฤติผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยจำเลยไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาทแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยนั้น เห็นว่าแม้โจทก์จะได้ฟ้องผู้เอาประกันภัยไว้อีกคดีหนึ่งและคดีนั้นยังไม่ถึงที่สุด โจทก์ก็ชอบที่จะยื่นฟ้องจำเลยให้รับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๘๗ ว่าด้วยประกันภัยค้ำจุนได้ ที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความนั้น เห็นว่าความรับผิดของจำเลยเกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยและมีลักษณะเป็นการประกันวินาศภัยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะ ๒๐ หมวด ๒ การฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหาย จึงต้องถืออายุความ ๒ ปี นับแต่วันเกิดวินาศภัยตามมาตรา ๘๘๒ วรรคแรก โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะเกิดวินาศภัยรถยนต์ชนกันเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๑๗ และได้ฟ้องคดีเมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๙ คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความฟ้องร้อง
พิพากษายืน.