แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยหลอกลวงภริยาว่า มีงานให้สามีทำที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ภริยาหลงเชื่อจึงจ่ายเงินตามจำนวนที่จำเลยเรียกร้องให้แก่จำเลยไป ดังนี้ ภริยาเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงของจำเลย ภริยาจึงมีฐานะเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา341 จำคุก 2 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาได้ความว่า จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายทั้งหกว่า มีงานให้สามีของผู้เสียหายไปทำที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ผู้เสียหายทั้งหกหลงเชื่อต่อการแสดงข้อความเท็จจึงจ่ายเงินจำนวนที่เรียกร้องให้แก่จำเลยไป ดังนี้ เห็นว่าผู้เสียหายทั้งหกที่โจทก์ระบุในฟ้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงของจำเลยตามที่โจทก์กล่าวหา จึงมีฐานะเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4)
พิพากษายืน.