คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า ทางพิพาทเป็นทางสาธารณประโยชน์หรือไม่ และจำเลยมีสิทธิปิดกั้นทางพิพาทหรือไม่ การที่ศาลพิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอม จำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้น ย่อมอยู่ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไม่เป็นการนอกประเด็น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินหนึ่งแปลง เนื้อที่ 2งานเศษจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าของที่ดินทางทิศตะวันออกของที่ดินโจทก์ ถัดที่ดินจำเลยไปเป็นทางสาธารณะ เมื่อต้นเดือนเมษายน 2526จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้ไม้ทำเป็นรั้วปิดทางสาธารณะตรงช่องระหว่างที่ดินจำเลยทั้งสองกับที่ดินนางสวิงซึ่งโจทก์ได้ใช้เส้นทางนี้เข้าออกไปทำนา เป็นเหตุให้โจทก์ไปทำนาไม่ได้ แม้ทางดังกล่าวเป็นที่ดินของจำเลยก็ตกเป็นภาระจำยอมแก่โจทก์แล้ว ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยทั้งสองรื้อรั้วและสิ่งกีดขวางออก และห้ามเกี่ยวข้องกับทางดังกล่าว
จำเลยทั้งสองให้การว่า ทางพิพาทไม่ใช่ทางสาธารณะ เป็นทางที่อยู่ในที่ดินจำเลย ซึ่งจำเลยทำขึ้นเพื่อใช้เข้าออกสู่ทางสาธารณะ โจทก์เคยขออาศัยทางพิพาทออกไปสู่ทางสาธารณะเป็นครั้งคราวเมื่อประมาณ 3 ปีมานี้ ต่อมาโจทก์จำเลยทะเลาะกันจำเลยจึงไม่ให้โจทก์ใช้ทางพิพาท ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่แน่นอนว่าเป็นทางสาธารณะหรือทางภาระจำยอม
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า ทางพิพาทเป็นทางสาธารณะประโยชน์หรือไม่ จำเลยมีสิทธิปิดกั้นทางพิพาทหรือไม่แล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนรั้วและสิ่งกีดขวางที่จำเลยทั้งสองทำขึ้นปิดทางพิพาทที่ปรากฏในแผนที่พิพาท
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอม เป็นการนอกประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดนั้น ศาลชั้นต้นได้กำหนดประเด็นว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณประโยชน์หรือไม่และจำเลยมีสิทธิปิดกั้นทางพิพาทหรือไม่ เห็นว่า ประเด็นดังกล่าวมีข้อความสองตอน ตอนแรกมีว่าเป็นทางสาธารณะหรือไม่ ตอนหลังมีว่าจำเลยมีสิทธิปิดกั้นหรือไม่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอม จำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้นทางพิพาท ก็อยู่ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share