คำสั่งคำร้องที่ 1402/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกาคดีมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสองแถลงคัดค้าน (อันดับ 83)
คดีสืบเนื่องจากโจทก์จำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่า จำเลยที่ 2 ตกลงโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 777 หมู่ที่ 1 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน 90 ตารางวา ให้โจทก์และโจทก์จะชำระเงินค่าที่ดินให้จำเลยที่ 2 ตามราคาซื้อขายในสัญญาพิพาทเป็นจำนวนเงิน 800,000 บาท และค่าเสียหายอีกจำนวน 100,000บาท โจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงจะไปทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวและชำระเงินพร้อมกันในวันที่ 20 ตุลาคม 2532เวลา 11 นาฬิกา ณ สำนักงานที่ดินอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่หากโจทก์ไม่ไปรับโอนพร้อมกับชำระค่าที่ดินทั้งหมดให้แก่จำเลยที่ 2ตามกำหนดให้ถือว่าโจทก์ผิดนัด โจทก์จะไม่ติดใจฟ้องร้องใดๆเกี่ยวกับจำเลยทั้งสองและที่ดินแปลงนี้อีกต่อไป และหากจำเลยไม่ไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามกำหนด ยินยอมให้โจทก์ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาโอนของจำเลยทั้งสองแทนได้ (อันดับ 24แผ่นที่ 3) ศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดีไปตามยอมแล้ว
ต่อมาจำเลยที่ 2 ยื่นคำแถลงว่า โจทก์ไม่ไปยังสำนักงานที่ดินอำเภอแม่ริมตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยจำเลยรออยู่จนถึงเวลา 12 นาฬิกา เป็นการผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยจึงไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทดังกล่าวให้โจทก์ และขอให้แจ้งเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอแม่ริมงดเว้นจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่โจทก์ด้วย ศาลชั้นต้นสั่งว่าจัดการให้ แต่ในวันเดียวกันนั้นโจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์มอบหมายให้ทนายโจทก์ไปที่สำนักงานที่ดินอำเภอแม่ริมถึงเมื่อเวลา 10.45 นาฬิกา เพื่อแจ้งให้ทนายจำเลยทราบว่าโจทก์กำลังดำเนินการให้ธนาคารออกเช็คให้ และจะเดินทางตามมาจนกระทั่งเมื่อเวลา 12.10 นาฬิกา โจทก์เดินทางมาถึงพร้อมทั้งเช็คและเงินสดเพื่อชำระให้จำเลย แต่จำเลยไม่ยอมดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ขอให้บังคับเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอแม่ริมดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ในที่ดินให้โจทก์ ศาลชั้นต้นนัดสอบถามแล้วมีคำสั่งว่า โจทก์เป็น ผู้ผิดนัด (อันดับ 36)
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 75,76)

คำสั่ง
คำร้องของผู้ร้องพอแปลได้ว่า ผู้ร้องขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264พิเคราะห์แล้วเห็นสมควรห้ามจำเลยทำนิติกรรมใด ๆเกี่ยวกับที่ดินพิพาท ในระหว่างฎีกา ให้ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ

Share