คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บทกฎหมายใดก็ตาม ที่บัญญัติให้ริบทรัพย์ของบุคคลอื่นที่เขามิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด และทรัพย์นั้นไม่ใช่ทรัพย์ที่บุคคลทำหรือมีไว้เป็นความผิดแล้ว ย่อมขัดกับการลงโทษตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาในระหว่างใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร ศาลตีความมาแล้วว่า บทบัญญัติเช่นนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยใช้บังคับมิได้ (อ้างฎีกาที่ 225/2506)
พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 18 ที่บัญญัติให้เพิ่มความเป็นมาตรา 74 ทวิแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ซึ่งบัญญัติให้ริบเครื่องมือเครื่องใช้สัตว์พาหนะ ฯลฯ ซึ่งบุคคลใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด ฯลฯ ให้ริบเสียทั้งสิ้นไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่นั้นย่อมถือหรือตีความได้ว่าไม่มีความมุ่งหมายที่จะลงโทษผู้ร้องผู้เป็นเจ้าของช้างรายพิพาทซึ่งมิใช่ทรัพย์ที่บุคคลทำหรือมีไว้เป็นความผิด และผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย

ย่อยาว

มูลกรณี 2 สำนวนนี้สืบเนื่องมาจากศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองสำนวนฐานมีไม้หวงห้ามยังมิได้แปรรูปและให้ริบไม้กับข้างของกลางชื่อ “พลายทรัพย์” กับ “พังเอก” ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องว่าเป็นเจ้าของช้างทั้งสองเชือกผู้ร้องและคนเลี้ยงช้างมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลย ขอให้สั่งคืนช้างของกลางแก่ผู้ร้อง

โจทก์ค้านว่า พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 ทวิบัญญัติให้ริบได้

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คืนช้างของกลางทั้งสองเชือกแก่ผู้ร้อง

โจทก์อุทธรณ์ว่า มาตรา 74 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ เป็นบทกฎหมายพิเศษยกเว้นบทบัญญัติมาตรา 17 จึงต้องริบ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดก็ตาม ที่บัญญัติให้ริบทรัพย์ของบุคคลอื่นที่เขามิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดและทรัพย์นั้นไม่ใช่ทรัพย์ที่บุคคลทำหรือมีไว้เป็นความผิดแล้วย่อมขัดกับการลงโทษตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาในระหว่างใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรอยู่นี้ ศาลก็ได้ตีความมาแล้วว่าบทบัญญัติเช่นนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตย ใช้บังคับมิได้ (อ้างฎีกาที่ 225/2506) ฉะนั้น พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18 ที่บัญญัติให้เพิ่มความเป็นมาตรา 74 ทวิแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งบัญญัติว่า บรรดาเครื่องมือเครื่องใช้สัตว์พาหนะฯลฯ ซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด ฯลฯ ให้ริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่นั้น ย่อมถือหรือตีความได้ว่าไม่มีความมุ่งหมายที่จะลงโทษผู้ร้องผู้เป็นเจ้าของช้างรายพิพาทซึ่งมิใช่ทรัพย์ที่บุคคลทำหรือมีไว้เป็นความผิด และผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย

พิพากษายืน

Share