คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาที่ว่ามีการจดทะเบียนสมรสระหว่างโจทก์กับมารดาผู้ตายหรือไม่เป็นประเด็นสำคัญแห่งคดีซึ่งหากจะให้ความยุติธรรมดำเนินไปด้วยดีแล้วจำเป็นจะต้องสืบพยานเอกสารใบสำคัญการสมรสการที่ศาลอุทธรณ์รับฟังพยานเอกสารดังกล่าวที่ยื่นโดยผิดระเบียบจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา87(2) ต้นฉบับใบสำคัญการสมรสเป็นเอกสารมหาชนเพราะเป็นเอกสารที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายได้ทำขึ้นเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนใช้อ้างอิงจึงสันนิษฐานว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา127

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น บิดา โดยชอบ ด้วย กฎหมาย ของนาย สาโรจน์ ผู้ตาย จำเลย ที่ 1 เป็น เจ้าของ ผู้ครอบครอง รถยนต์ โดยสาร ประจำทาง หมายเลข ทะเบียน 10-1404 อ่างทอง โดย ว่าจ้างจำเลย ที่ 2 เป็น ผู้ขับ รถยนต์โดยสาร คัน ดังกล่าว เมื่อ วันที่18 สิงหาคม 2530 เวลา 15.45 นาฬิกา นาย สาโรจน์ ขับ รถจักรยานยนต์ มา ถึง ถนน สุขาภิบาล ทาง เข้า ตลาด ศาลเจ้าโรงทอง หน้า โรงเรียน อัมราวิทยาภูมิ กำลัง จะ ขับ แซง รถเข็น ถ่าน ซึ่ง วิ่ง อยู่ ข้างหน้า ทันใดนั้น รถยนต์โดยสาร ประจำทาง ของ จำเลย ที่ 1 ซึ่ง ขับ โดย จำเลย ที่ 2จะ แซง รถจักรยานยนต์ ของ นาย สาโรจน์ ทั้งที่ จำเลย ที่ 2เห็น อยู่ แล้ว ว่า ข้างหน้า มี รถเข็น ถ่าน และ รถจักรยานยนต์ ของนาย สาโรจน์ แต่ จำเลย ที่ 2 ยัง ขับ เบียด รถจักรยานยนต์ ของ นาย สาโรจน์ ใน ระยะ กระชั้นชิด ทำให้ รถจักรยานยนต์ ของ นาย สาโรจน์ ล้ม ลง ล้อ หลัง ของ รถยนต์โดยสาร ทับ ศีรษะ ของ นาย สาโรจน์ ถึงแก่ความตาย ทันที และ รถจักรยานยนต์ ได้รับ ความเสียหาย ทั้ง คัน ความเสียหาย ทั้งหมดเกิดจาก จำเลย ที่ 2 ซึ่ง ขณะ เกิดเหตุ ได้ ปฏิบัติ หน้าที่ ตาม ทางการที่ จ้าง ของ จำเลย ที่ 1 ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน หรือ แทน กันชดใช้ ค่าเสียหาย และ ค่าสินไหมทดแทน รวมเป็น เงิน 292,700 บาทให้ แก่ โจทก์ พร้อม ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 7 ครึ่ง ต่อ ปี นับแต่ วันที่18 สิงหาคม 2530 เป็นต้น ไป จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์
จำเลย ที่ 1 ให้การ ว่า โจทก์ ไม่ได้ เป็น บิดา โดยชอบ ด้วย กฎหมายของ นาย สาโรจน์ เมื่อ จำเลย ที่ 2 ขับ รถยนต์โดยสาร แล่น มา ใกล้ ที่ เกิดเหตุ นาย สาโรจน์ ซึ่ง ขับ รถจักรยานยนต์ ตาม หลัง มา ได้ เร่งความเร็ว รถ แซง รถยนต์โดยสาร ของ จำเลย ที่ 1 ทาง ซ้าย มือ ทำให้ รถจักรยานยนต์ชน รถเข็น ถ่าน เสีย หลัก ล้ม ลง นาย สาโรจน์ กระแทก ของแข็ง ซึ่ง ไม่ทราบ ว่า เป็น พื้น ถนน หรือ ถูก ล้อรถยนต์ ทับ เหตุ เกิดจาก ความประมาท เลินเล่อของ นาย สาโรจน์ หรือ มิฉะนั้น ก็ เป็นเหตุ สุดวิสัย ขอให้ ยกฟ้อง
จำเลย ที่ 2 ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ ขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว วินิจฉัย ว่า โจทก์ ไม่มี หลักฐาน แสดง ว่าโจทก์ กับ นาง จรีรัตน์ มารดา ผู้ตาย จดทะเบียนสมรส กัน นาย สาโรจน์ ผู้ตาย จึง เป็น บุตรนอกสมรส ของ โจทก์ เมื่อ โจทก์ ไม่ใช่ บิดา โดยชอบ ด้วยกฎหมาย ของ ผู้ตาย โจทก์ จึง ไม่มี อำนาจฟ้อง พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายก คำพิพากษา ศาลชั้นต้น ให้ ศาลชั้นต้นพิพากษา ใหม่ ใน ประเด็น ที่ ยัง มิได้ วินิจฉัย
จำเลย ที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คง มี ปัญหา วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ จำเลย ที่ 1ว่า โจทก์ มีอำนาจ ฟ้อง หรือไม่ และ ใบ สำคัญ การ สมรส เลข ทะเบียน161/2161 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2516 ท้าย คำร้อง ฉบับ ลงวันที่10 พฤษภาคม 2533 ของ โจทก์ ที่ ยื่น ผิดระเบียบ นั้น ศาลอุทธรณ์ ชอบที่ จะ รับฟัง ได้ หรือไม่ เห็นว่า ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87 บัญญัติ ว่า “ห้าม มิให้ ศาล รับฟัง พยาน ใด เว้นแต่ (1)พยานหลักฐาน นั้น เกี่ยว ถึง ข้อเท็จจริง ที่ คู่ความ ฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใดใน คดี จะ ต้อง นำสืบ และ (2) คู่ความ ฝ่าย ที่ อ้าง พยานหลักฐาน ได้ แสดงความจำนง ที่ จะ อ้างอิง พยานหลักฐาน นั้น ดัง ที่ บัญญัติ ไว้ ใน มาตรา 88และ 90 แต่ ถ้า ศาล เห็นว่า เพื่อ ประโยชน์ แห่ง ความยุติธรรม จำเป็นจะ ต้อง สืบพยาน หลักฐาน อัน สำคัญ ซึ่ง เกี่ยวกับ ประเด็น ข้อสำคัญ ใน คดีโดย ฝ่าฝืน ต่อ บทบัญญัติ ของ อนุมาตรา นี้ ให้ ศาล มีอำนาจ รับฟังพยานหลักฐาน เช่นว่า นั้น ได้ ” เห็นว่า การ ที่ โจทก์ จะ เป็น บิดา โดยชอบ ด้วย กฎหมาย ของ ผู้ตาย ได้ ก็ ต่อเมื่อ โจทก์ ได้ จดทะเบียนสมรส กับนาง จรีรัตน์ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1457 เท่านั้น ดังนั้น ปัญหา ว่า มี การ จดทะเบียนสมรส ระหว่าง โจทก์ กับ นาง จรีรัตน์ หรือไม่ จึง เป็น ประเด็น สำคัญ แห่ง คดี และ หาก จะ ให้ ความยุติธรรมดำเนิน ไป ด้วย ดี แล้ว ก็ จำเป็น จะ ต้อง สืบพยาน เอกสาร ดังกล่าวฉะนั้น การ ที่ ศาลอุทธรณ์ รับฟัง พยานเอกสาร ดังกล่าว จึง นับ ว่า ชอบ ด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) แล้ว ประการ สำคัญใบ สำคัญ การ สมรส เลข ทะเบียน 161/2161 ดังกล่าว เป็นต้น ฉบับ เอกสารซึ่ง ให้ ยอมรับ ฟัง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง เอกสาร ดังกล่าว ยัง เป็น เอกสารมหาชน อีก ด้วยเพราะ เป็น เอกสาร ที่ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ตาม กฎหมาย ได้ ทำ ขึ้น เพื่อประโยชน์ แก่ ประชาชน จะ ได้ ใช้ อ้างอิง จึง ให้ สันนิษฐาน ว่า เป็น ของแท้จริง และ ถูกต้อง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127เช่นนี้ จึง ฟังได้ ว่า โจทก์ ได้ จดทะเบียนสมรส กับ นาง จรีรัตน์ มารดา ของ ผู้ตาย โดยชอบ แล้ว โจทก์ จึง เป็น บิดา โดยชอบ ด้วย กฎหมาย ของ ผู้ตายและ มีอำนาจ ฟ้อง
พิพากษายืน

Share