คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กนั้น เมื่อเด็กผู้เสียหายพร้อมด้วยบิดาเลี้ยงซึ่งเป็นผู้ปกครองในขณะนั้น ได้มาร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานในฐานนะผู้เสียหาย และเจ้าพนักงานได้สอบสวนถ้อยคำไว้ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันใช้มีดปลายแหลมขู่เข็ญและข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.วิลัยศรี อายุ ๑๑ ปี จนสำเร็จความใคร่ด้วยกันผลัดเปลี่ยนกันข่มขืน ด.ญ. วิลัยศรี ผู้เสียหายกับนายเล็ก สาขาจันทร์บิดา ได้มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้งสองปฏิเสธ นายปรีชาอ้างฐานที่อยู่ นายสมนึกต่อสู้ว่า ผู้เสียหายอายุ ๑๕ ปี และว่านายเล็กไม่ใช่บิดาผู้เสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าไม่มีผู้ร้องทุกข์ที่ถูกต้องตาม ก.ม.ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ชั้นอุทธรณ์ส่งสำเนาฟ้องให้นายสมนึกไม่ได้ ศาลอุทธรณ์สั้งจำหน่ายคดีคงพิจารณาแต่นายปรีชา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปตามกระบวนความ
นายปรีชา จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ด.ญ.วิลัยศรี ผู้เสียหายพร้อมด้วยนายเล็กบิดาเลี้ยงซึ่งเป็นผู้ปกครองเด็กในเวลานั้น ได้มาร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานในฐานะผู้เสียหาย เจ้าพนักงานได้สอบสวนถ้อยคำไว้ ถือได้ว่าเป็นการร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย

Share