แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรรมการของสมาคม ได้มีการประชุมมติเป็นเอกฉันท์ให้ลบชื่สมาชิกของสมาคมนั้นออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคม เพราะสมาชิกผู้นั้นได้วิ่งเต้นชักชวนสมาชิกให้ก่อกวนวุ่นวาย อ้างอิทธพลผู้ใหญ่ในวงราชการดังนี้ เมื่อการที่กรรมการอภิปรายในที่ประชุมและออกโฆษณาว่าได้ลบชื่อสมาชิกผู้นั้นออกจากสมาชิกนั้น เป็นการกล่าวตามมติที่ประชมและกระทำโดยสุจริตและสุภาพแล้ว ก็เป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 283 ไม่มีโทษฐานหมื่นประมาท
ย่อยาว
คดีที่ ๒ สำนวนนี้ โจทก์ฟ้องมีใจความว่าจำเลยได้โฆษณาหมิ่นประมาทใส่ความทำให้โจทก์เสียหายด้วยความไม่จริง ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วได้ความว่าจำเลยทั้ง ๓ เป็นกรรมการของสมาคมกรรมกรไทยโจทก์เป็นสมาชิกอยู่ในสมาคมนี้ เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๔๙๔ จำเลยกับกรรมการเดิมของสมาคม เพราะเหตุที่โจทก์ได้วิ่งเต้นชักชวนสมาชิกให้ก่อกวนวุ่นวาย อ้างอิทธิพลผู้ใหญ่ในวงราชการแล้วจำเลยที่ ๒ ได้ลงชื่อในประกาศปิดไว้ที่สมาคมให้ลบชื่อโจทก์ออกจากสมาชิกของสมาคม
ศาลขั้นต้นวินิจฉัยกรณีต้องด้วยมาตรา ๒๘๓ ข้อ ๔ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฏีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า การที่จำเลยอภิปรายในที่ประชุมและออกโฆษณาว่าได้ลบชื่อโจทก์ออกจากสมาชิกดังที่โจทก์กล่าวในฟ้องตามมติที่ประชุมนั้นเป็นการกระทำโดยสุจริตและสุภาพ ฉะนั้นคดีจึงเข้าบทมาตรา ๒๘๓ แห่ง ก.ม. ลักษณะอาญา ซึ่งบัญญัติว่าไม่มีโทษฐานหมิ่นประมาท.
จึงพิพากษายืน.