แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานลักทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัดไปตามกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127 มาตรา 290 นั้น หาได้ถูกประมวลกฎหมายอาญายกเลิกไปโดยสิ้นเชิงไม่ แม้ความผิดฐานลักทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดจะไม่มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา แต่การเอาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดรักษาไว้ไปโดยทุจริต ก็คงยังเป็นความผิดตามมาตรา 142 ประมวลกฎหมายอาญาอยู่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2503)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เจ้าพนังกานได้ทำการจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยช้างพัง ๑ เชือก เป็นของกลางในข้อหาสมคบกันมีช้างไว้ในครอบครองโดยไม่ได้จดทะเบียนและฐานรับของ โจร ในระหว่างควบคุมจำเลยและนำช้างที่ถูกเจ้าพนักงานยึดไว้เพื่อส่งพนักงานสอบสวน จำเลยได้บังอาจสมคบกันลักเอาข้างนั้นไป ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๙๐, ๒๙๓, ๒๙๔, ๒๙๖
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทั้งสองได้เจตนาทุจริตสมคบกันเอาช้างของกลางไปเสียจากเจ้าพนักงานจริงดังฟ้อง แต่จะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ที่ถูกยึดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๙๐ ไม่ได้ เพราะถูกยกเลิกไปแล้ว จึงพิพากษายกฟ้องในข้อหาฐานลักทรัพย์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๔๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา จำคุกฐานลักทรัพย์ที่ยึดมีกำหนด ๑ ปี
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดฐานลักทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัติไปนั้น เดิมมีบัญญัติไว้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๙๐ แต่หาได้มีบัญญัติไว้ในหมวด ๑ ลักษณะ ๑๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ในความผิดฐานลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์ไม่ คงมีบัญญัติไว้ในมาตรา ๑๔๒ ซึ่งอยู่ในหมวด ๑ ลักษณะ ๒ อันเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงาน ปัญหาจึงมีว่า ตามฟ้องของโจทก์นั้น จะลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๔๒ ประมวลกฎหมายอาญาได้หรือไม่
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยมี่ประชุมใหญ่แล้ว เห็นว่า ในข้อหาว่า จำเลยเอาข้างรายนี้ไปเสียจากผู้เสียหายนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองลักทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดมาเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและเพื่อโฆษณาหาเจ้าของตามกฎหมาย ฟ้องของโจทก์จึงไม่ใช่เป็นการกล่าวอ้างถึงความผิดฐานลักทรัพย์แต่อย่างเดียว แต่โจทก์ได้บรรยายข้อความไว้ด้วยว่า จำเลยได้เอาไปเสียซึ่งทรัพย์ที่เจ้าพนักงานได้ยึดรักษาไว้อันเป็นความผิดตามมาตรา ๑๔๒ ประมวลกฎหมายอาญา นั่นเอง ความผิดฐานลักทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัดไปตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๙๐ นั้น หาได้ถูกประมวลกฎหมายอาญายกเลิกไปโดยสิ้นเชิงไม่ แม้ความผิดฐานลักทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดจะไม่มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา แต่การเอาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดรักษาไว้ไปโดยทุจริต ก็คงยังเป็นความผิดตามมาตรา ๑๔๒ ประมวลกฎหมายอาญาอยู่ เมื่อการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเป็นความผิดตามาตรา ๑๔๒ ประมวลกฎหมายอาญาแล้ว จำเลยก็ย่อมมีความผิดและถูกลงโทษตามมาตรา ๑๔๒ นี้ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน