แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
จำเลยใช้ปืนยิงไปที่พื้นดินหนึ่งนัดในขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินไปหาจำเลยและอยู่ห่างจำเลยประมาณสองวาจำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายได้เมื่อกระสุนปืนถูกขาผู้เสียหายบาดเจ็บต้องถือว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายหาใช่เป็นการยิงขู่ไม่การกระทำของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นการป้องกันโดยชอบเพราะขณะนั้นผู้เสียหายยังไม่สามารถจะทำร้ายจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ ลงโทษ จำเลย ฐาน ทำร้าย ร่างกาย นาย จีระพล ทองเรือง และ ฐาน พยายาม ฆ่า นาย สมชาย บัวนาค
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ ศาลชั้นต้น พิพากษา ลงโทษ จำเลย ตาม ฟ้อง
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ เป็น ว่า จำเลย มี ความผิด ฐาน ทำร้าย ร่างกายนาย สมชาย ส่วน ข้อหา อื่น คง ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ทาง พิจารณา โจทก์ นำสืบ ว่า เมื่อ วันที่12 พฤษภาคม 2524 เวลา ประมาณ 17 นาฬิกา มี การ จัด งานเลี้ยง ลูกเสือชาวบ้าน ที่ สวน มะพร้าว ชายหาด ริมทะเล บริเวณ ท่าเรือ เฟอร์รีหมู่ที่ 2 ตำบล ลิปะน้อย อำเภอ เกาะสมุย จังหวัด สุราษฎร์ธานีนาย จีระพล ทองเรือง กับ นาย สมชาย บัวนาค ผู้เสียหาย ไป ร่วมงานเลี้ยง และ นั่ง รวมกลุ่ม รับประทาน อาหาร และ ดื่ม สุรา อยู่ ด้วยกัน กับ พรรคพวก 4-5 คน บริเวณ งาน จุด ตะเกียง เจ้าพายุ ไว้ 2 ดวงซึ่ง มี แสงสว่าง เพียงพอ มองเห็น ได้ ชัด ใน ระยะ ใกล้เคียง เมื่อจวน จะ เลิก งาน เวลา ประมาณ 23-24 นาฬิกา นาย แดง จำเลย เดิน มา ที่กลุ่ม ผู้เสียหาย แล้ว หยิบ เอา ขวดสุรา ไป 1 ขวด นาย จีระพล ได้ลุกขึ้น เดิน ตามไป ทวง เอา สุรา คืน จำเลย ไม่ ยอม คืน และ ใช้ ขวดสุรา ตี นาย จีระพล 1 ที ถูก ที่ หางคิ้ว ซ้าย จน เป็น เหตุ ให้นาย จีระพล ล้มลงนั่ง นาย สมชาย ลุกขึ้น และ จะ ตามไป ห้ามปราม แต่ เดินไป ได้ 2-3 ก้าว และ ยัง อยู่ ห่าง ประมาณ 2 วา จำเลย ก็ ชัก ปืนสั้นออก มา ยิง 1 นัด กระสุนปืน ถูก นาย สมชาย ที่ หน้าแข้ง ขาขวา ได้ รับบาดเจ็บ ตาม รายงาน ผล การ ตรวจ ชันสูตร บาดแผล ท้ายฟ้อง
จำเลย นำสืบ ว่า คืน เกิดเหตุ จำเลย ไป ร่วมงาน เลี้ยง ลูกเสือ ชาวบ้านจริง ตอน เลิกงาน เวลา 24 นาฬิกา จำเลย ลุกขึ้น ยืน และ หยิบ เอา สุราขาว ไป ด้วย 1 ขวด แล้ว เกิดเหตุ คดี นี้ เพราะ นาย จีระพล มา แย่ง เอาสุรา จาก จำเลย ตอนหลัง จำเลย เดิน หนี ไป นาย สมชาย กับ พวก 4-5 คนเดิน ตรง เข้า มา หา จำเลย โดย นาย สมชาย ถือ ไม้ โต ขนาด เท่าแขนพร้อมกับ เงื้อไม้ เข้า มา ด้วย จำเลย ถอยหลัง และ ร้องห้าม ไม่ ให้เข้า มา แต่ นาย สมชาย กับพวก ไม่ เชื่อ และ มี ท่าที จะ เข้า ทำร้ายจำเลย ด้วย จำเลย จึง ชักปืน ออก มา ยิง ขู่ ลง ไป ที่ พื้นดิน 1นัด แล้ว วิ่งหนี กลับบ้าน วัน รุ่งขึ้น เวลา ประมาณ 12 นาฬิกา จำเลยให้ ภริยา ไป ทำ ความ ตกลง กับ นาย สมชาย ซึ่ง เป็น ญาติ กัน และนาย สมชาย ก็ ไม่ ติดใจ จะ เอาความ แต่ อย่างใด
ศาลฎีกา พิเคราะห์ แล้ว ชั้น นี้ คดี มี ปัญหา จะ ต้อง วินิจฉัย ตามฎีกา ของ จำเลย เพียง ข้อเดียว ว่า จำเลย ใช้ ปืน ยิง 1 นัด เป็นความผิด ฐาน ทำร้าย ร่างกาย นาย สมชาย ผู้เสียหาย ด้วย หรือไม่ เห็นว่าแม้ จำเลย จะ ใช้ ปืน ยิง 1 นัด ลง ไป ที่ พื้นดิน แต่ ขณะนั้นนาย สมชาย ผู้เสียหาย ก็ กำลัง เดิน เข้าไป หา จำเลย และ อยู่ ห่างประมาณ 2 วา จำเลย ย่อม เล็งเห็นผล แห่ง การ กระทำ ได้ ว่า กระสุนปืนอาจ ถูก ผู้เสียหาย ได้ ทั้ง ปรากฏ ว่า กระสุนปืน ได้ ถูก นาย สมชายผู้เสียหาย ที่ หน้าแข้ง ขาขวา ได้ รับ อันตราย แก่กาย ถึง บาดเจ็บด้วย ต้อง ถือ ว่า จำเลย มี เจตนา ทำร้าย นาย สมชาย ผู้เสียหาย แล้วหา ใช่ เป็น การ ยิง ขู่ ไม่ และ การ กระทำ ของ จำเลย ดังกล่าว ไม่เข้า ลักษณะ เป็น การ ป้องกัน ตัว ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68ด้วย เพราะ ตอนนั้น นาย สมชาย ผู้เสียหาย อยู่ ห่าง จำเลย ประมาณ2 วา ยัง ไม่ สามารถ จะ ทำร้าย จำเลย ได้ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ลงโทษจำเลย ใน ข้อหา ความผิด ฐาน ทำร้าย ร่างกาย นาย สมชาย ผู้เสียหายตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ชอบแล้ว ฎีกา ของ จำเลย ฟัง ไม่ ขึ้น
พิพากษายืน