คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์ที่เรียกค่าเสียหายเป็นรายเดือนนับจากเดือนที่ฟ้องเป็นต้นไปพร้อมดอกเบี้ยในแต่ละเดือนด้วยนั้นเมื่อกำหนดให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นรายเดือนอันเป็นค่าเสียหายในอนาคตแล้วโจทก์ก็ไม่อาจที่จะขอให้ชำระดอกเบี้ยในค่าเสียหายดังกล่าวมาในคราวเดียวกันอีกเพราะเป็นการซ้ำซ้อนกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 14 ไร่ราคา 42,000 บาท ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 บ้านเจ๊ะเก ตำบลบาโงสะโตอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เป็นที่สวนยางและเป็นสินสมรสของบิดามารดาโจทก์ เมื่อบิดาโจทก์ตาย จึงเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์นายต่วนกือจิ น้องชายโจทก์ และมารดาโจทก์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2512ทายาทได้ตกลงแบ่งมรดกกัน ส่วนของโจทก์คือที่พิพาท โจทก์ได้ครอบครองทำประโยชน์ตลอดมาเมื่อประมาณ 5 เดือนมานี้ จำเลยที่ 1บุตรของนายต่วนกือจิ น้องชายโจทก์ และจำเลยที่ 2 สามีจำเลยที่ 1ได้ห้ามปรามคนงานของโจทก์ที่กรีดยาง แล้วร่วมกับบริวารเข้ากรีดยางในที่พิพาท ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย สวนยางพิพาทกรีดยางแล้วโจทก์ได้ประโยชน์สุทธิวันละ 4 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 15 บาทคิดเป็นเงินวันละ 60 บาท เดือนหนึ่งกรีดยางได้ประมาณ 15 วันได้เงินเดือนละ 900 บาท จำเลยกรีดยาง 5 เดือน เป็นค่าเสียหาย4,500 บาท ขอให้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 4,500 บาทพร้อมดอกเบี้ย และค่าเสียหายรายเดือน เดือนละ 900 บาท พร้อมดอกเบี้ย นับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2523 (เดือนที่ยื่นฟ้อง) และเดือนต่อๆ ไปจนกว่าจำเลยจะออกจากที่พิพาท
จำเลยทั้งสองให้การว่า ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินของบิดาโจทก์ เมื่อประมาณ 10 ปีมานี้ บิดาโจทก์แบ่งที่ดินให้โจทก์และนายต่วนกือจิบิดาจำเลยคนละเท่าๆ กัน บิดาจำเลยได้ทางทิศเหนือรวมทั้งที่พิพาทด้วย โจทก์ได้ทางทิศใต้ บิดาจำเลยได้ครอบครองประโยชน์เสียภาษีบำรุงท้องที่ โจทก์ไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องในที่พิพาท เมื่อบิดาโจทก์ตายที่พิพาทไม่เป็นทรัพย์มรดก สวนยางพิพาทแบ่งค่าแรงแล้วได้ยางวันละ 2 กิโลกรัม ราคา 30 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่าที่พิพาทเป็นของนายต่วนกือจิไม่ใช่ของโจทก์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วฟังว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินที่โจทก์ได้รับตามหนังสือแบ่งมรดก ไม่ใช่ที่ดินของนายต่วนกือจิ โจทก์เสียหายเดือนละ 700 บาท พิพากษากลับ ที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยทั้งสองและบริวารเกี่ยวข้อง ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 3,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย และใช้ค่าเสียหายรายเดือนเดือนละ 700 บาท พร้อมดอกเบี้ย นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2523ไปทุกเดือนจนกว่าจำเลยทั้งสองจะออกจากที่พิพาท
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า จำเบยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในค่าเสียหายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2523 เป็นต้นไป นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่ศาลอุทธรณ์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 700 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2523 ต่อไปทุกเดือน จนกว่าจำเลยทั้งสองจะออกไปจากที่พิพาทนั้น เห็นว่าเมื่อกำหนดให้จำเลยให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นรายเดือนอันเป็นค่าเสียหายในอนาคต ซึ่งครบถ้วนตามจำนวนค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าดอกเบี้ยในค่าเสียหายดังกล่าวอีก เพราะเป็นการซ้ำซ้อนกัน.

Share