แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามกฎหมายหลายบท จำเลยให้การรับสารภาพตามข้อหาโจทก์ไม่ติดใจสีบพะยานดังนี้ เมื่อความผิดบทใดมีอัตราโทษอย่างสูงเกินกว่า 10 ปีศาลก็ลงโทษจำเลยมิได้แต่-ไม่เป็นเหตุขัดขวางที่จะลงโทษจำเลยในบทที่มีอัตราโทษอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเอาความเท็จไปแจ้งแก่นายอำเภอว่าชื่อเขียนเป็นเจ้าของโคตามตั๋วพิมพ์รูปพรรณประสงค์จะโอนขายโคให้ ช. นายอำเภอจึงทำการโอนโคและตั่วพิมพ์ให้ ช.ไป และจำเลยได้กดลายมือชื่อลงในตั๋วพิมพ์ปลอมลายมือชื่อของนายเขียนด้วยขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การรับสารภาพโจทก์ไม่สืบพะยาน แต่ได้ส่งตั๋วพิมพ์รูปพรรณต่อศาล
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยมีผิด ๒ บทตาม ม.๒๒๕,๒๒๖ ให้ลงโทษตาม ม.๒๒๕ ซึ่งเป็นบทหนัก
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโทษตาม ม.๒๒๕ มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ ๑๐ ปีขึ้นไปตาม ม.๑๗๖ แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญาโจทก์ต้องสืบพะยาน จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าที่โจทก์ว่าได้ส่งตั๋วพิมพ์รูปพรรณที่จำเลยกระทำผิดมาแล้วนั้นเห็นว่าเพียงเท่านี้หาเป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยได้ทำผิดตาม ม.๒๒๕ ไม่ แม้จำเลยไม่อุทธรณ์ขึ้นมาศาลอุทธรณ์ก็หยิบยกขึ้นได้ แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำละเมิดกฎหมายหลายบท ศาลจำต้องพิจารณาความผิดที่กล่าวหาทุกบท ไม่ใช่ความผิดบทหนักจะเป็นเหตุให้ความผิดบทเบาตกไปด้วยไม่ ถ้าโจทก์พิสูจน์ได้ดังข้อหานี้ คือตามที่ศาลชั้นต้นวาง ม.๒๒๕ และ ม.๒๒๖ เมื่อลงโทษจำเลยตาม ม.๒๒๕ แล้ว ใช่ว่าความผิดตาม ม.๒๒๖ จะต้องตกไปด้วยไม่ เมื่อความผิดตามบทมาครานี้มีอัตราโทษไม่ถึง ๑๐ ปี ศาลก็ลงโทษได้โดยไม่ต้องฟังพะยานโจทก์ พิพากษากลับลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๒๖