คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2338/2526

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ขับรถยนต์จำเลยบรรทุกสินค้าของโจทก์ได้จอดรถเพื่อตรวจสภาพยางใกล้สถานีบริการน้ำมันมิใช่ที่เปลี่ยว การที่คนร้ายหลายคนมีอาวุธปืนและมีดจู่โจมบังคับคนขับรถและคนประจำรถจับมัดไว้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอันไม่อาจพึงคาดหมายได้ เป็นการสุดวิสัยที่จะอาจป้องกันได้ ถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 617

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 45,949.90 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยคือการที่คนร้ายปล้นทรัพย์ของโจทก์ในระหว่างทางที่จำเลยรับขนส่งไปนั้น เป็นเหตุสุดวิสัยอันจะทำให้จำเลยพ้นความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 หรือไม่ ได้ความว่าเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2523 เวลาประมาณ 00.30 นาฬิกา นายสุพัฒน์ ทิศายุกตะหรือทิศายุกะตะ ผู้ขับรถยนต์บรรทุกสินค้าของโจทก์มุ่งหน้าไปยังจังหวัดขอนแก่น ได้จอดรถข้างถนนเมื่อเลยสถานีบริการน้ำมันสามทหาร ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ไปเล็กน้อยเพื่อตรวจดูยาง เมื่อเห็นว่ายางอยู่ในสภาพดีก็ขึ้นรถติดเครื่อง รถยังไม่เคลื่อนที่ได้มีคนร้ายคนหนึ่งใช้อาวุธปืนบังคับ คนร้ายอีกคนหนึ่งใช้มีดจี้นายจำลอง ดวงเฉลิม คนประจำรถ คนร้ายใช้เชือกมัดมือนายสุพัฒน์กับนายจำลองติดกัน แล้วคนร้ายอีกคนหนึ่งเป็นผู้ขับรถไปทางเหนือ ระหว่างทางคนร้ายจอดรถให้นายสุพัฒน์ นายจำลองและคนร้ายอีกสองคนลงจากรถแล้วขับรถหลบหนีไป คนร้ายสองคนคุมนายสุทัศน์กับนายจำลองเข้าไปในซอยแล้วให้เดินลงไปในทุ่งนามัดมือไว้กับกอหญ้า แล้วคุมอยู่จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 นาฬิกา จึงพากันหนีไปนายสุพัฒน์ดิ้นหลุดแล้วนำความไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปรากฏรายละเอียดตามสำเนารายงานประจำวัน ซึ่งสารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวงส่งต่อศาลตามคำสั่งเรียก ได้ความดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าสถานที่ที่นายสุพัฒน์จอดรถเพื่อตรวจยางนั้นอยู่ใกล้สถานีบริการน้ำมันสามทหารมิใช่ที่เปลี่ยว การจอดรถเพื่อตรวจสภาพยางก็เป็นการกระทำตามธรรมดาที่ผู้ขับรถทั่วไปปฏิบัติกันอยู่ เห็นได้ว่านายสุพัฒน์ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว การที่คนร้ายหลายคนมีอาวุธร้ายแรงจู่โจมบังคับนายสุพัฒน์กับนายจำลองเช่นนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอันไม่อาจพึงคาดหมายได้เป็นการสุดวิสัยที่บุคคลทั้งสองจะอาจป้องกันได้ ถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616”

พิพากษายืน

Share