คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อ ม. ลูกจ้างทำงานประจำอยู่ที่สำนักงานของโจทก์เงินเดือนปกติที่โจทก์จ่ายให้แก่ ม. จึงเป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงานอยู่แล้ว ส่วนเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางซึ่งโจทก์จ่ายให้ ม. เมื่อออกไปทำงานต่างจังหวัดเป็นครั้งคราวนั้น เป็นการตอบแทนการออกไปทำงานในต่างจังหวัดนอกเหนือจากการทำงานในเวลาปกติของวันทำงาน ไม่มีพฤติการณ์ใดส่อแสดงว่า โจทก์จ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางให้แก่ ม.. เป็นส่วนหนึ่งของการตอบแทนการทำงานในเวลาปกติของวันทำงานด้วยเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางกรณีนี้จึงหาใช่ค่าจ้างอันอาจนำมารวมคำนวณค่าทดแทนได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เจ้าพนักงานเงินทดแทนได้มีคำสั่งเงินทดแทนให้โจทก์จ่ายค่าทดแทนให้ ม. ลูกจ้างโจทก์ โจทก์ไม่เห็นชอบด้วยจึงอุทธรณ์ต่อจำเลยจำเลยได้มีคำสั่งวินิจฉัยคำอุทธรณ์ของโจทก์ สั่งให้โจทก์จ่ายค่าทดแทนให้ ม. โดยนำเอาเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางที่โจทก์จ่ายให้ลูกจ้างในเวลาเดินทางไปปฏิบัติงานต่างจังหวัด นอกที่ตั้งสำนักงานปกติของโจทก์มารวมเข้ากับค่าจ้างปกติ (เงินเดือน) และจึงนำมาคำนวณเป็นค่าทดแทน โจทก์เห็นว่าคำสั่งของจำเลยไม่ถูกต้อง ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์เงินทดแทนของจำเลยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการนำเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางมารวมคำนวณเป็นค่าทดแทนและพิพากษาว่า ค่าทดแทนที่โจทก์จะต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้างของโจทก์ให้คำนวณจากเงินเดือนปกติของลูกจ้างเท่านั้นไม่ต้องนำเอาเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางมารวมด้วย

จำเลยให้การว่า จำเลยได้มีคำสั่งถูกต้องแล้ว

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมแรงงานจำเลยเฉพาะส่วนเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางที่นำมารวมคำนวณเป็นเงินทดแทน โดยให้คำนวณจากเงินเดือนปกติของ ม. เท่านั้น

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความเป็นยุติว่า ม.เป็นลูกจ้างประจำของโจทก์ ทำงานประจำอยู่ที่สำนักงานของโจทก์ จะออกทำงานต่างจังหวัดเฉพาะเมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่ง เมื่อไม่ออกต่างจังหวัดก็ไม่ได้รับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ม. ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปปฏิบัติงานชั่วคราวต่างจังหวัด ขณะเดินทางรถยนต์พลิกคว่ำ ม. ได้รับบาดเจ็บ พนักงานเงินทดแทนมีคำสั่งเงินทดแทนให้โจทก์จ่ายเงินทดแทนแก่ ม. โดยนำเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พักและค่าพาหนะเดินทางมารวมเป็นค่าจ้างเพื่อคำนวณเงินทดแทน โจทก์อุทธรณ์ต่ออธิบดีกรมแรงงาน อธิบดีกรมแรงงานวินิจฉัยว่า ค่าเช่าที่พักและค่าพาหนะเดินทางมิใช่ค่าจ้าง ส่วนเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางเป็นค่าจ้าง นำมารวมกับค่าจ้างปกติเพื่อคำนวณเงินทดแทนได้

ศาลฎีกาเห็นว่า ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 2 นิยามคำว่า “ค่าจ้าง” ไว้ว่า “หมายความว่าเงิน หรือเงินและสิ่งของที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน หรือจ่ายให้โดยคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ และหมายความรวมถึงเงินหรือ เงินและสิ่งของที่จ่ายให้ในวันหยุดซึ่งลูกจ้างไม่ได้ทำงาน และในวันลาด้วย ทั้งนี้ ไม่ว่าจะกำหนด คำนวณหรือจ่ายเป็นการตอบแทนในวิธีอย่างไรและไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร” เมื่อ ม.มีหน้าที่ทำงานประจำอยู่ที่สำนักงานของโจทก์ เงินเดือนปกติที่โจทก์จ่ายให้แก่ ม. จึงเป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงานอยู่แล้ว ส่วนเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางซึ่งโจทก์จ่ายให้ ม. เมื่อออกไปทำงานต่างจังหวัดเป็นครั้งคราวนั้น ก็เป็นการตอบแทน การออกไปทำงานในต่างจังหวัด นอกเหนือจากการทำงานในเวลาปกติของวันทำงาน ไม่มีพฤติการณ์ใดส่อแสดงว่า โจทก์จ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางให้แก่ ม. เป็นส่วนหนึ่งของการตอบแทนการทำงานในเวลาปกติของวันทำงานด้วย เงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางในคดีนี้จึงหาใช้ค่าจ้างไม่ และไม่อาจนำมารวมคำนวณค่าทดแทนได้

พิพากษายืน

Share