แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้มีคำพิพากษาคดีอาญาแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยให้รับผิดทางแพ่งโดยอาศัยมูลจากคำชี้ขาดทางอาญานั้น แต่ไม่มีการอ้างอิงสำนวนคดีอาญาเป็นพยาน ดังนี้ข้อเท็จจริงในสำนวนคดีอาญาเรื่องนั้นเป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าบุตรผู้เยาว์ของจำเลยทั้ง ๓ สมคบกันลักไก่โจทก์ไปรวม ๒๐ ตัว ศาลพิพากษาลงโทษบุตรจำเลยทั้ง ๓ ฐานรับของโจร จำคุก ๒ เดือนแต่ให้รอการลงโทษการกระทำของบุตรจำเลยทั้ง ๓ เป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียหายรวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๗๙๐ บาท ขอให้จำเลยทั้ง ๓ ใช้เงินจำนวนนี้แก่โจทก์แทนบุตรของตนฐานละเมิด
จำเลยทั้ง ๓ ปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยทั้ง ๓ ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ของบิดามารดาในการดูแลบุตรแล้ว ไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง ฯลฯ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้ง ๓ ใช้ราคาไก่ ๖ ตัวเป็นเงิน ๑๐๒ บาท ร่วมกับผู้เยาว์ทั้ง ๓ นั้น ฯลฯ
จำเลยทั้ง ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีไม่ปรากฏที่ไหนเลยว่าผู้เยาว์ได้รับของโจร ไก่ของโจทก์กี่ตัวกันแน่ คงมีปรากฎจำนวนไก่เพียง ๖ ตัว เท่าที่ติดตามจับได้ ซึ่งโจทก์ก็ได้รับคืนแล้ว
อนึ่ง สำนวนคดีอาญาแดงที่ ๔๑๑/๒๔๙๘ ที่ศาลอุทธรณ์อ้างถึงว่ารับของโจรไก่ ๑๒ ตัว ก็ไม่ปรากฎว่าคู่ความฝ่ายใดอ้างสำนวนคดีอาญาดังกล่าว ทั้งไม่ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ได้เรียกสำนวนคดีอาญาเรื่องนี้มาประกอบการพิจารณาแต่อย่างใด แม้ว่าศาลชั้นต้นจะได้ส่งสำนวนคดีอาญานั้นรวมขึ้นมาอีกสำนวนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเพราะเหตุใดก็ตาม ก็ถือว่าเป็นเอกสารนอกสำนวน มิใช่หลักฐานในคดีเรื่องนี้ การที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกเอาข้อเท็จจริงนอกสำนวนขึ้นมากล่าวอ้างในคำพิพากษาว่า บุตรจำเลยได้รับของโจรไก่โจทก์ไว้ ๑๒ ตัว ดังที่ปรากฎในสำนวนคดีอาญาแดงที่ ๔๑๑/๒๔๙๘ จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.แพ่ง มาตรา ๘๗
พิพากษายืน.