แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นาของ จ. กับพวกอยู่ทางเหนือของพนังกั้นน้ำ นาของจำเลยอยู่ทางใต้ของพนังและอยู่ในที่ลุ่ม เวลามีน้ำมากๆ นาของจำเลยจะถูกน้ำท่วมหมด หลังปี พ.ศ.2512 เป็นต้นมา น้ำท่วมนาของจำเลยเพราะมีผู้ถมดินปิดทางระบายน้ำจำเลยร้องไปทางอำเภอๆ ก็ไม่ทำอะไรจนปี พ.ศ.2516 ที่เกิดเหตุ จ. กับพวกหล่อคอนกรีตทับพนังกั้นน้ำและปิดช่องระบายน้ำอีก ทำให้น้ำท่วมนาของจำเลยสูงถึง 1 เมตรจนจำเลยไม่อาจทำนาได้ เมื่อจำเลยได้ดำเนินการที่จะขจัดความเสียหายโดยการร้องเรียนต่ออำเภอหลายครั้งแล้วไม่ได้ผลจำเลยจึงทุบทำลายพนังคอนกรีตนั้นโดยทำเพียงให้ขาดเป็นช่อง 3 ช่อง เพื่อไม่ให้น้ำท่วมนาจำเลยเท่านั้น แม้จะเป็นความผิด ก็เป็นการกระทำด้วยความจำเป็นเพื่อให้ทรัพย์สินของตนเองพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นได้ และไม่เกินสมควรแก่เหตุ จึงไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 83
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ปรับคนละ 500 บาท
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นาของนายจันทร์ ปัญจะจอม กับพวกอยู่ทางทิศเหนือของพนังกั้นน้ำพิพาท ส่วนที่นาของจำเลยอยู่ทางทิศใต้ของพนังกั้นน้ำดังกล่าว เป็นที่นาที่อยู่ในที่ลุ่มและพนังกั้นน้ำพิพาทอยู่ในเขตที่นาของจำเลย เวลามีน้ำมาก ๆ ที่นาของจำเลยจะถูกน้ำท่วมหมด หลังจากปี พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา น้ำท่วมนาของจำเลยเพราะนายเจริญ หอมนาน กับพวกถมดินปิดทางระบายน้ำ จำเลยจึงร้องไปทางอำเภอ แต่ก็ไม่ได้กระทำการอย่างใด จนกระทั่งปี พ.ศ. 2516นายจันทร์ ปัญจะจอม กับพวกหล่อคอนกรีตทับพนังกั้นน้ำและปิดช่องระบายน้ำอีก ทำให้น้ำท่วมบริเวณที่นาจำเลยสูงถึง 1 เมตร จำเลยไม่อาจไถนาและดำนาได้ เมื่อเป็นเช่นนี้การที่จำเลยทุบทำลายพนังกั้นน้ำคอนกรีตดังกล่าว จึงเห็นได้ชัดว่าเพื่อให้มีทางระบายน้ำไหลออก มิให้น้ำท่วมนาจำเลย จำเลยเองก็ได้ดำเนินการทุกวิธีวิถีทางที่จะขจัดความเสียหายที่ได้รับโดยการร้องเรียนต่อทางอำเภอเชียงคำหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล จึงได้ทุบทำลายพนัง คอนกรีตดังกล่าวแต่ก็หาได้ทำลายทั้งหมดไม่โดยทำให้ขาดเป็นช่อง 3 ช่อง เพื่อไม่ให้น้ำท่วมนาจำเลยเท่านั้น แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดก็เป็นการกระทำผิดด้วยความจำเป็น เพื่อให้ทรัพย์สินของตนเองพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึง และไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ ทั้งการกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67
พิพากษายืน