แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก มิใช่เป็นการฟ้องคดีเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของกองมรดก ไม่อยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754
ย่อยาว
ผู้ร้องทั้งสองคนยื่นคำร้องว่า นางเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยว เจ้ามรดกได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2514 มิได้ทำพินัยกรรมหรือการจัดการมรดกไว้ นางเฮี๊ยะไม่มีทายาทอื่น คงมีแต่ทายาทชั้นหลาน ผู้ร้องทั้งสองเป็นหลานอยู่ในฐานะทายาทผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของนายเฮี๊ยะ โดยเหตุที่จะต้องรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันกันในระหว่างทายาท ผู้ร้องทั้งสองไม่สามารถดำเนินการได้โดยลำพัง จึงขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องทั้งสองร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของนายเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยว
นายซ่งเง็ก แซ่เอี๊ยว ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นหลาน ผู้ร้องทั้งสองชอบเล่นการพนัน มีหนี้สินล้นพ้นตัว มิได้มีคุณสมบัติต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ทรัพย์มรดกของนางเฮี๊ยะอยู่ในความครอบครองของผู้คัดค้านตลอดมาเป็นเวลาเกิน 1 ปี พ้นระยะเวลาที่ผู้ร้องทั้งสองและทายาทอื่นจะใช้สิทธิเรียกร้องแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนางเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยว ผู้ตายมีคุณสมบัติและสมควรเป็นผู้จัดการมรดกได้ การยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าร้องเกิน 1 ปีไม่ได้ กรณีนี้ไม่ใช่เป็นการฟ้องคดีมรดกไม่อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 คดีไม่ขาดอายุความ มีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกของนายเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยวร่วมกัน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องทั้งสองได้ร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้ร้องทั้งสองร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย การร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกนั้นมิใช่เป็นการฟ้องคดีเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของกองมรดก ไม่อยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 คดีของผู้ร้องจึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน