คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1132/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งอายัดเงินค่าโอนสิทธิการเช่าซึ่งผู้ร้องจะต้องชำระแก่จำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้าน ต่อมาผู้ร้องแถลงต่อศาลว่า เงินค่าโอนสิทธิการเช่าตามที่โจทก์ขออายัดนั้น ผู้ร้องและจำเลยตกลงเลิกการเช่าต่อกัน จำเลยไม่ติดใจเรียกร้องเงินดังกล่าวจากผู้ร้อง ผู้ร้องจึงไม่อยู่ในฐานะลูกหนี้จำเลยที่จะต้องปฏิบัติตามหมายอายัดต่อไป ดังนี้ ตามคำแถลงของผู้ร้องเป็นเรื่องที่จำเลยกับผู้ร้องได้กระทำกันภายหลังจากที่ศาลได้สั่งอายัดเงินโอนสิทธิการเช่าแล้ว หาอาจใช้ยันโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 259 ประกอบด้วยมาตรา 314(1) เมื่อผู้ร้องรับว่าจะนำเงินมาวางศาลภายใน 1 เดือนแต่ไม่นำมาวางภายในกำหนด โจทก์ก็ย่อมขอให้ผู้ร้องนำเงินดังกล่าวมาชำระตามคำสั่งอายัดของศาลได้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ๒๐,๖๑๒.๗๑ บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินค่าโอนสิทธิการเช่าบ้านจำนวน ๑๘,๐๐๐ บาท ซึ่งนางสาววีระศรี แซ่เตียว จะต้องชำระแก่จำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา
นางสาววีระศรียื่นคำคัดค้านว่า จำเลยได้มอบสิทธิการเช่าและให้เช่าช่วงอาคารดังกล่าวให้แก่ธนาคาร จำเลยจึงไม่มีสิทธิในจำนวนเงินที่ศาลอายัด
ต่อมาผู้คัดค้านได้ถอนคำคัดค้าน โดยขอเวลานำเงินมาวางศาลภายใน ๑ เดือน ศาลชั้นต้นอนุญาต ในวันเดียวกันนั้นศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ตามฟ้องครั้นครบกำหนด ๑ เดือน ผู้คัดค้านไม่นำเงินมาชำระ โจทก์แถลงขอให้เรียกผู้คัดค้านมาศาลและให้นำเงินดังกล่าวมาชำระต่อศาล
ผู้คัดค้านแถลงต่อศาลว่า เงินค่าโอนสิทธิการเช่า ๑๘,๐๐๐ บาทตามที่โจทก์ขออายัดนั้น ผู้คัดค้านและจำเลยตกลงเลิกการเช่าต่อกัน จำเลยไม่ติดใจเรียกร้องเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านจึงไม่อยู่ในฐานะลูกหนี้จำเลยที่จะต้องปฏิบัติตามหมายอายัดต่อไป
ศาลชั้นต้นสั่งว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๑๔ ซึ่งมาตรา ๒๕๙ อนุโลมให้ใช้บังคับแก่วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาด้วยนั้น จำเลยจะเปลี่ยนแปลงสิทธิเรียกร้องที่ถูกอายัดภายหลังศาลทำการอายัดไว้แล้ว หาอาจใช้ยันแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่ ข้ออ้างของผู้คัดค้านจึงไม่มีผล หากผู้คัดค้านไม่ยอมปฏิบัติตาม ก็เป็นกรณีที่จะต้องดำเนินการต่อไปเสมือนว่าผู้คัดค้านเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา ตามมาตรา ๓๑๒
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามที่ผู้คัดค้านแถลงว่า จำเลยไม่ติดใจเรียกร้องเงินค่าโอนสิทธิการเช่าจากผู้คัดค้านเพราะตกลงเลิกการเช่าต่อกันนั้น ก็เป็นเรื่องที่จำเลยกับผู้คัดค้านได้กระทำกันภายหลังจากที่ศาลได้สั่งอายัดเงินโอนสิทธิการเช่าแล้ว หาอาจใช้ยันโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๕๙ ประกอบด้วยมาตรา ๓๑๔ (๑) อนึ่ง ผู้คัดค้านก็ได้ถอนคำคัดค้านโดยรับว่าจะนำเงินมาวางศาลภายใน ๑ เดือน เมื่อผู้คัดค้านไม่นำเงินมาวางศาลภายในกำหนด โจทก์ก็ย่อมขอให้ผู้คัดค้านนำเงินดังกล่าวมาชำระตามคำสั่งอายัดของศาลได้ ที่ผู้คัดค้านฎีกาว่าผู้คัดค้านไม่อยู่ในฐานะลูกหนี้จำเลยนั้นฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share