แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีโจทก์ต้องห้าม ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220จึงไม่รับ ฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ในประเด็นที่ว่าการกระทำของ จำเลยตามข้อเท็จจริงในคดีนี้จะเป็นความผิดฐานรับของโจรหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อัน 87)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ประทับฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 84)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 85)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ดังนั้น ไม่ว่าฎีกาของโจทก์จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือปัญหาข้อกฎหมายก็ต้องห้ามมิให้ฎีกา ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง