คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6706/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยที่กำหนดความผิดวินัยอย่างร้ายแรงคือ ลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์ของบริษัทหรือของเพื่อนร่วมงานในบริเวณบริษัท คำว่า”บริษัท” มิได้หมายถึงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของบริษัทแต่เพียงอย่างเดียว แต่หมายความรวมถึงทรัพย์ที่บริษัทครอบครองดูแลรับผิดชอบอยู่ด้วย เมื่อปรากฏว่า ของขวัญนาฬิกาตั้งโต๊ะที่โจทก์เบียดบังเอาไปเป็นของผู้ที่นำมามอบให้แก่บริษัท ข. ขณะที่ของขวัญนั้นอยู่ในความครอบครองดูแลและรับผิดชอบของจำเลย และจำเลยมอบให้โจทก์ครอบครองดูแลแทน ซึ่งจำเลยจะต้องนำของขวัญ ดังกล่าวไปมอบให้บริษัท ข. กรณีถือได้ว่า โจทก์ได้ยักยอกทรัพย์ของจำเลยไปตามข้อบังคับดังกล่าวอันเป็นการกระทำผิดข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานข้อดังกล่าวของจำเลยในกรณีร้ายแรงแล้ว แต่กรณีมิใช่เป็นการยักยอกทรัพย์ของเพื่อนร่วมงานในบริเวณบริษัทของจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์มิได้กระทำผิด ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน เป็นเงินจำนวน 144,000 บาทสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเงินจำนวน 12,000 บาทค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเป็นเวลา 51 วัน เป็นเงินจำนวน 40,800 บาท ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมเป็นเงินจำนวน 4,608,000 บาท เงินโบนัสเป็นเงินจำนวน 72,000 บาทเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเงินจำนวน 37,188.28 บาทรวมเป็นเงินจำนวน 4,913,988 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2538จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เนื่องจากโจทก์กระทำความผิดอย่างร้ายแรง เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2538จำเลยร่วมกับบริษัทข่าวสด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของจำเลยจัดงานครบรอบวันก่อตั้งหนังสือพิมพ์ข่าวสดของขวัญที่แขกนำมามอบให้สูญหายไป โจทก์ซึ่งไม่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลของขวัญได้สั่งการให้พนักงานนำของขวัญจำนวนหนึ่งไปเก็บไว้ที่โต๊ะทำงานของโจทก์ แล้วโจทก์เอาของขวัญนาฬิกาตั้งโต๊ะไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว อันเป็นความผิดทางอาญา และผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2538บริษัทข่าวสด จำกัด จัดงานครบรอบวันก่อตั้งหนังสือพิมพ์ข่าวสดโจทก์ได้รับมอบหมายจากนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการจำเลยให้ช่วยดูแลของขวัญที่มีผู้นำมามอบให้บริษัทข่าวสด จำกัดหลังจากงานเลิกแล้วโจทก์ได้ขนของขวัญไปเก็บไว้ในห้องทำงานของโจทก์ โจทก์ทราบว่านาฬิกาตั้งโต๊ะดังกล่าวเป็นของบริษัทข่าวสด จำกัด โจทก์เป็นผู้ครอบครองนาฬิกาตั้งโต๊ะดังกล่าว โจทก์เกิดความอยากได้เพื่อตั้งโชว์ โจทก์มีเจตนาทุจริตเบียดบังนาฬิกาตั้งโต๊ะดังกล่าวไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเป็นความผิดอาญา และเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย ตามเอกสารหมาย ล.2 หมวดที่ 6 ข้อ 3.3.1 ที่ว่ายักยอกทรัพย์ของเพื่อนร่วมงานในบริเวณบริษัท การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมจำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าค่าเสียหาย และค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีส่วนเงินโบนัสตามข้อบังคับของจำเลยระบุว่าเป็นดุลพินิจเฉพาะของจำเลย จำเลยจึงมีสิทธิไม่จ่ายเงินโบนัสแก่โจทก์ได้สำหรับเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในส่วนของจำเลยโจทก์ถูกเลิกจ้างเนื่องจากทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินสมทบดังกล่าว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์มิได้ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยหมวดที่ 6 ข้อ 3.3.1 ที่ว่า ยักยอกทรัพย์ของเพื่อนร่วมงานในบริเวณบริษัท เพราะบริษัทข่าวสด จำกัด มิใช่เป็นเพื่อนร่วมงานของโจทก์ คำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางที่วินิจฉัยว่าโจทก์ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย หมวดที่ 6 ข้อ 3.3.1จึงเป็นการวินิจฉัยที่ไม่ชอบนั้น เห็นว่า ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย หมวดที่ 6 ข้อ 3.3.1 กำหนดความผิดวินัยอย่างร้ายแรงว่า “ลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์ของบริษัทหรือของเพื่อนร่วมงานในบริเวณบริษัท” ซึ่งจำเลยถือเป็นเหตุเลิกจ้างโจทก์ตามหนังสือเลิกจ้างเอกสารหมาย จ.2เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์มีเจตนาทุจริตเบียดบังนาฬิกาตั้งโต๊ะที่มีผู้นำมามอบให้แก่บริษัทข่าวสดจำกัด ในงานครบรอบวันก่อตั้งหนังสือพิมพ์ข่าวสดไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัว กรณีจึงมีปัญหาว่า นาฬิกาตั้งโต๊ะที่โจทก์เบียดบังไว้นั้น เป็นทรัพย์ของบริษัทหรือเพื่อนร่วมงาน ตามข้อ 3.3.1ดังกล่าวหรือไม่ จะเห็นได้ว่า คำว่า “บริษัท” ที่ระบุไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยมิได้หมายถึงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของบริษัทแต่เพียงอย่างเดียว แต่หมายความรวมถึงทรัพย์ที่บริษัทครอบครองดูแลรับผิดชอบอยู่ด้วย คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ของขวัญนาฬิกาตั้งโต๊ะที่โจทก์เบียดบังเอาไปอยู่ในความครอบครองดูแลและรับผิดชอบของจำเลยโดยจำเลยมอบให้โจทก์ครอบครองดูแลแทน ซึ่งจำเลยจะต้องนำของขวัญดังกล่าวไปมอบให้บริษัทข่าวสด จำกัด กรณีถือได้ว่าโจทก์ได้ยักยอกทรัพย์ของจำเลยไปตามข้อบังคับดังกล่าวแล้วมิใช่เป็นการยักยอกทรัพย์ของเพื่อนร่วมงานในบริเวณบริษัทดังที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัย ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน

Share