คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2257/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยใช้ไม้เนื้อแข็งกว้าง2นิ้วฟุตยาว80เซนติเมตรซึ่งเป็นไม้ขนาดโตตีผู้ตายที่ใบหน้า1ทีผู้ตายล้มคว่ำหน้าลงกับพื้นแล้วตีที่ศีรษะด้านหลังอย่างสุดแรงอีก1ทีเช่นนี้ไม้ที่ใช้ตีอาจใช้ทำร้ายร่างกายให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้และเป็นการตีที่อวัยวะสำคัญแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ไม้เนื้อแข็งกว้าง 2 นิ้วฟุต ยาว 80เซนติเมตร เป็นอาวุธตีนายปัญญา เกิดวงษ์ 2 ที ถูกที่บริเวณใบหน้าและศีรษะด้านหลัง โดยมีเจตนาฆ่า จนนายปัญญา เกิดวงษ์ ถึงแก่ความตายตำรวจจับจำเลยได้พร้อมไม้ที่จำเลยใช้กระทำผิด เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และริบไม้ของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ ต่อมาระหว่างสืบพยานโจทก์จำเลยกลับให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเพราะการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ไม้ของกลางไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด ไม่ริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้จำคุกจำเลย 15 ปี คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลย เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 10 ปี ริบไม้ของกลาง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า “จำเลยกับนางศิริเนตรเป็นสามีภรรยากันมาก่อนมีบุตรด้วยกัน 1 คน ต่อมาเลิกร้างกันแล้วนางศิริเนตรไปอยู่กินเป็นภรรยายนายปัญญาผู้ตาย แต่แล้วนางศิริเนตรกลับไปคืนดีเป็นสามีภรรยากับจำเลยอีก เป็นเหตุให้จำเลยและผู้ตายเกิดความหึงหวงนางศิริเนตรและขัดใจกัน ครั้นวันเกิดเหตุจำเลยและผู้ตายพบกันและพูดจาทำความเข้าใจกันแต่ตกลงกันไม่ได้ ในที่สุดจำเลยใช้ไม้ของกลางตีผู้ตายที่ศีรษะถึงแก่ความตาย แล้ววินิจฉัยว่า ฯลฯ”จำเลยใช้ไม้เนื้อแข็งกว้าง 2 นิ้วฟุต ยาว 80 เซนติเมตร ตีผู้ตายมีบาดแผล 2 แห่ง คือ ที่หน้าตรงตาขวา และที่ท้ายทอยซ้าย…จำเลยเอกก็ให้การชั้นสอบสวนรับสารภาพว่าใช้ไม้ของกลางตีผู้ตายที่ใบหน้า 1 ที ผู้ตายล้มคว่ำหน้าลงกับพื้น จำเลยจึงตีศีรษะด้านหลังอย่างสุดแรงอีก 1 ที …ไม้ของกลางมีขนาดโตอาจใช้ทำร้ายร่างกายให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ การที่จำเลยใช้ไม้ของกลางตีผู้ตายที่หน้าและศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายจนผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องชอบด้วยรูปคดีแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share