คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2242/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พี่ชายของโจทก์ร่วมผู้ตายเกิดจากบิดามารดาเดียวกันและเป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ร่วมผู้ตาย มิใช่บุคคลตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 29 ที่จะขอเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตายได้ จึงไม่มีสิทธิถอนคำร้องทุกข์หรือมีคำขออื่นใดแทนโจทก์ร่วมผู้ตายได้
เช็คพิพาทสั่งจ่ายเงิน 500,000 บาท ก่อนศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาจำเลยชำระเงินให้โจทก์ร่วม 20,000 บาท และระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์จำเลยได้ชำระเงินที่เหลือในเช็คพิพาทแล้วเป็นการบรรเทาผลร้ายแห่งการกระทำความผิด จึงมีเหตุสมควรรอการลงโทษให้จำเลย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คธนาคารศรีนคร จำกัด สาขารามอินทราลงวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๙ สั่งจ่ายเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท มอบให้นายปรีชาปานดา ผู้เสียหายเพื่อแลกเงินสด เมื่อเช็คถึงกำหนด ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างการพิจารณา นายปรีชา ปานดา ผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
เมื่อเสร็จการสืบพยานโจทก์และโจทก์ร่วม จำเลยขอให้การรับสารภาพและชดใช้เงินให้โจทก์ร่วมบางส่วนเป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓ ให้จำคุก ๑ ปี กรณีมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ นายสอั๊ด ปานดำยื่นคำร้องว่าโจทก์ร่วมถึงแก่ความตายแล้ว ผู้ร้องเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับโจทก์ร่วม และเป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ร่วมผู้ตายผู้ร้องจึงขอเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตาย ผู้ร้องได้รับชดใช้เงินตามเช็คพิพาทส่วนที่เหลือแล้ว ไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับจำเลยขอถอนคำร้องทุกข์ หากไม่อาจถอนคำร้องทุกข์ ได้ขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานเบาและรอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้อง พิพากษายืน
จำเลยฎีกา และผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า แม้ผู้ร้องเป็นพี่ชายของโจทก์ร่วมผู้ตายเกิดจากบิดามารดาเดียวกัน และเป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ร่วมผู้ตายก็ตามแต่ผู้ร้องมิใช่บุคคลตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๙ ที่จะขอเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตายโดยอนุโลมต่อไปได้ ผู้ร้องจึงหามีสิทธิถอนคำร้องทุกข์หรือมีคำขออื่นใดแทนโจทก์ร่วมผู้ตายไม่ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งชอบแล้ว แต่เห็นว่าจำเลยได้ชำระเงินตามเช็คพิพาทแล้วแม้ผู้ร้องไม่มีสิทธิเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตายแต่ผู้ร้องก็เป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ร่วมผู้ตาย มีสิทธิและหน้าที่จัดการมรดกโดยทั่วไปเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกจึงรับเงินตามเช็คพิพาทจากจำเลยได้ เท่ากับจำเลยได้บรรเทาผลร้ายแห่งการกระทำผิดแล้ว พฤติการณ์แห่งคดีการกระทำผิดของจำเลยไม่ร้ายแรงนักกรณีมีเหตุสมควรรอการลงโทษแก่จำเลย
พิพากษาแก้เป็นว่า โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share