คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2242/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้เสียหายเข้าเป็นโจทก์ร่วมแล้วตายลง แม้ผู้ร้องจะเป็นพี่ชายของโจทก์ร่วมผู้ตายซึ่งเกิดจากบิดามารดาเดียวกัน และเป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ร่วมผู้ตายด้วยก็ตาม แต่ผู้ร้องมิใช่บุคคลตามป.วิ.อ. มาตรา 29 ที่จะขอเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตายโดยอนุโลมต่อไปได้ ดังนั้นผู้ร้องจึงหามีสิทธิถอนคำร้องทุกข์ หรือคำขออื่นใดแทนโจทก์ร่วมผู้ตายไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างการพิจารณานายปรีชา ปานดำ ผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
เมื่อเสร็จการสืบพยานโจทก์และโจทก์ร่วม จำเลยขอให้การรับสารภาพและชดใช้เงินให้โจทก์ร่วม 20,000 บาท ยังขาดอีก480,000 บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ให้จำคุก 1 ปีจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ นายสอั๊ด ปานดำยื่นคำร้องว่าเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับโจทก์ร่วมเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2531 โจทก์ร่วมถึงแก่ความตาย ศาลแพ่งมีคำสั่งแต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ร่วมผู้ตายผู้ร้องจึงขอเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตาย และผู้ร้องได้รับชดใช้เงินตามเช็คพิพาทคดีนี้แล้วไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป จึงได้ถอนคำร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ขอศาลอนุญาตให้ผู้ร้องถอนคำร้องทุกข์ หากผู้ร้องไม่อาจถอนคำร้องทุกข์ได้ขอศาลลงโทษจำเลยสถานเบาและรอการลงโทษให้จำเลย
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องและพิพากษายืน
จำเลยฎีกาและผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ร่วมผู้ตายจะมีสิทธิเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตายต่อไปได้หรือไม่ เห็นว่า แม้ผู้ร้องเป็นพี่ชายของโจทก์ร่วมผู้ตายเกิดจากบิดามารดาเดียวกันและเป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ร่วมผู้ตายด้วยก็ตาม แต่ผู้ร้องมิใช่บุคคลตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 29ที่จะขอเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตายโดยอนุโลมต่อไปได้ดังนั้น ผู้ร้องจึงหามีสิทธิถอนคำร้องทุกข์หรือมีคำขออื่นใดแทนโจทก์ร่วมผู้ตายไม่ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งชอบแล้ว ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น…”
พิพากษาแก้เป็นว่า โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share